โดย…ณัฏฐะ มหัทธนา ผู้อำนวยการอาวุโส
ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนและลูกค้าสัมพันธ์
บลจ.กรุงไทย
หุ้นปลอดภัย (Defensive Stock) คือหุ้นที่มีผลดำเนินงานและ/หรือปันผลค่อนข้างสม่ำเสมอ มั่นคง ไม่ค่อยแปรผันไปตามเศรษฐกิจ จึงเป็นที่ต้องการของนักลงทุนและมักสร้างผลตอบแทนเหนือกว่าตลาด (outperform) ในช่วงเศรษฐกิจขาลงหรือมีความไม่แน่นอนสูง ดังนั้น เมื่อได้ยินคำว่า defensive stocks คนส่วนใหญ่จึงนึกถึงหุ้นของบริษัทที่ขายสิ่งจำเป็น อาทิ สินค้าอุปโภคบริโภคจำเป็นต่อการดำรงชีวิต (consumer staples) สาธารณูปโภค (utilities) ไฟฟ้า ประปา เป็นต้น
ความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นระยะหลังชี้ Defensive มิได้จำกัดอยู่แค่ “สิ่งจำเป็น” แต่ภาพกว้างกว่านั้นคือ “ความแน่นอน” ต่างหากที่นักลงทุนส่วนใหญ่ไขว่คว้าเมื่อต้องเผชิญหน้ากับความไม่แน่นอน …จำได้หรือไม่? หุ้นของบรรดาบริษัทยักษ์จ้าวเทคโนโลยีถูกใช้เป็น new defensive หุ้นปลอดภัยยุค new normal เพราะท่ามกลางความไม่แน่นอนสูงเศรษฐกิจหยุดชะงักจาก lockdown ตลาดมั่นใจว่า big tech เหล่านี้กำไรโตได้ค่อนข้างแน่ จึงโถมเข้าไปซื้อจนกลายเป็นธีมใหญ่แห่งปี 2020 สร้างผลตอบแทนสูง เทียบกับเศรษฐกิจจริงที่ถดถอยรุนแรงแล้วดูราวกับหนังคนละม้วน
ปัจจุบันปี 2021 หลายปัจจัยเปลี่ยนไปรวมถึง “นโยบายรัฐ” จากเดิมเน้นพิมพ์เงินแจกปฐมพยาบาลเศรษฐกิจเบื้องต้น แต่ในไม่ช้าสหรัฐอาจต้องขึ้นภาษีเพื่อจัดหาเงิน (ร่วมกับกู้ยืม) ไปลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน …ภาษีสูงขึ้นกดดันกำไรบริษัทและราคาหุ้นโดยภาพรวมก็จริง แต่เกมนี้มี “ผู้ชนะ” ชัดเจนได้แก่บรรดาธุรกิจ “ลดโลกร้อน” เพราะ Climate Change คือหัวใจของเมกะโปรเจคดังกล่าว… ปธน.โจ ไบเดนผลักดันแผนลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure Bill) $2 ล้านล้าน มิใช่แค่สร้างถนนซ่อมสะพานดังเช่นในอดีต แต่มุ่งแก้ปัญหา “การเปลี่ยนแปลงด้านภูมิอากาศ” (Climate Change)
รัฐบาลทั่วโลกกำลังทุ่มงบมหาศาลลงทุนสารพัดโครงการ Climate Change หลายประเทศเพิ่งตระหนักถึงความสำคัญหันมาเข้าร่วม แนวโน้มดังกล่าวคงทวีความเข้มข้นต่อไปอีกหลายปีหรือหลายสิบปีข้างหน้า จนกว่าจะบรรลุเป้าหมายตาม “ข้อตกลงปารีส” (Paris Agreement) ซึ่งมุ่งขจัดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ให้เหลือศูนย์ (net zero) และจำกัดอุณหภูมิโลกเฉลี่ยให้สูงขึ้นไม่เกิน 1.5 องศาเซลเซียส ภายในช่วงกลางศตวรรษ
ทบวงการพลังงานหมุนเวียนระหว่างประเทศ (International Renewable Energy Agency: IRENA) เผยรายงานประจำปีชี้ความพยายามลดโลกร้อน “พลาดเป้า” กระตุ้นชาติสมาชิกกว่า 160 ประเทศ เร่งลงทุนเพิ่มอีก 30% จากแผนเดิมขึ้นไปแตะ $131 ล้านล้านภายในปี 2050 เพื่อปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้พลังงานให้สะอาดขึ้นโดยด่วน
เพียงสัปดาห์ล่าสุดก็มีหลายข่าวที่ยืนยันว่าเม็ดเงินภาครัฐหลั่งไหลเข้าสู่โครงการ Climate Change
อินเดีย ยักษ์ใหญ่เอเชียใต้จ่อกระโจนเข้าร่วมวงสู้ Climate Change เตรียมพิจารณาตั้งเป้าขจัดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (net zero) ภายในปี 2050 เร็วกว่าจีน 10 ปี …แล้วจะเกิดอะไรขึ้น? ถ้าจีนขยับบ้าง!!!
พรรคกรีน (Green Party) ซึ่งกำลังมาแรงโดยเพิ่งเอาชนะพรรค CDU ของนายกฯอังเกลา แมร์เคิล ในการเลือกตั้งท้องถิ่นสนามแรกแห่งปีของเยอรมนี คลอดแผนลงทุน Climate Change เสนออัดงบเพิ่มอีก 5 หมื่นล้านยูโรต่อปี
ฟินแลนด์ เทงบช่วยเหลือที่ได้จากอียูเข้าลงทุนโครงการลดโลกร้อน Climate Change วงเงินสูงเป็นประวัติการณ์
ผู้นำธุรกิจ 10 บริษัทชั้นนำของยุโรป ประกอบด้วย ABB, AkzoNobel, ENEL, E.ON, Iberdrola, Maersk, SAP, Scania, Schneider Electric, Volkswagen ซึ่งรวมกลุ่มกันในนาม “CEO Alliance for Europe’s Recovery, Reform and Resilience” ประกาศกร้าวลงทุน 1 แสนล้านยูโร ลดคาร์บอนสู้ Climate Change
รัฐบาลสหรัฐเตรียมอัดมาตรการชุดใหญ่ มุ่งยกระดับมาตรฐานรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม โดยมีวัตถุประสงค์สำคัญเพื่อขับเคลื่อนเงินลงทุนให้พุ่งเข้าใส่บริษัทที่เอาจริงเรื่อง Climate Change
Climate: The New Defensive งบประมาณภาครัฐทั่วโลกมุ่งสนับสนุนโครงการลดโลกร้อนต่อไปอีกหลายปีหรือหลายสิบปีข้างหน้า Climate Change จึงมาแรงแซงทุกธีมลงทุนเข้าข่ายหุ้น defensive บนแนวโน้มความ “แน่นอน” ดังกล่าว
กองทุนเปิดเคแทม โกลบอล ไครเมท เชนจ์ อิควิตี้ ฟันด์ (KT-CLIMATE) เน้นลงทุนในหน่วยของ Schroder International Selection Fund Global Climate Change Equity (กองทุนหลัก) ซึ่งเชื่อว่าธุรกิจที่ตระหนักถึงภัยคุกคามของการเปลี่ยนแปลงด้านภูมิอากาศและปรับตัวตั้งแต่ต้น จะได้ประโยชน์จากการเติบโตเชิงโครงสร้างในระยะยาว กองทุนหลักคัดเลือกหุ้นโดยอิงปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม สังคม ธรรมาภิบาล (Environmental, Social and Governance: ESG)
KT-CLIMATE เสนอขาย IPO 15-23 มี.ค. สร้างโอกาสลงทุนระดับ Unstoppable Megatrend เปิดประตูรับ “พลังสนับสนุนจากภาครัฐ” มุ่งพัฒนาสิ่งแวดล้อม พร้อมก่อกำเนิดเครื่องยนต์ขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่ยั่งยืน
คำเตือน: ความเห็นส่วนบุคคล ไม่ใช่คำแนะนำการลงทุน ผลการดำเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน คู่มือการลงทุน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน