ผู้ถือหุ้น GREEN “ไต้ ชอง อี” ป่วนแจก GREEN- W 5 บริษัทมั่นใจไม่กระทบแผนการใช้เงิน เชื่อการประชุมครั้งหน้าออกวอร์แรนต์ ได้
แหล่งข่าวจากบริษัท กรีน รีชอร์สเซส (GREEN ) เปิดเผยว่า สาเหตุที่การประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2561 ที่ประชุมผู้ถือหุ้น ไม่อนุมัติการออกและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิซื้อหุ้นสามัญชุดที่ 5 หรือ GREEN-W 5 และไม่อนุมัติการเพิ่มทุนเพื่อรองรับสิทธิ GREEN – W 5 เนื่องจากนายไต้ ชอง อีก ผู้ถือหุ้นใหญ่ สัดส่วน 8.98 % หรือจำนวน 73.42 ล้านหุ้น เปลี่ยนใจไม่สนับสนุนการออก GREEN- W 5 ซึ่งก่อนการประชุมก็คุยกันดี ไม่ได้มีปัญหาใด ๆ
สำหรับนายไต้ ชอง อี เคยเป็นอดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหาร GREEN หลังจากเข้ามาถือหุ้นใหญ่ช่วงแรก ๆ แต่มีปัญหาเรื่องการทำงาน จึงออกจากการเป็นผู้บริหารแต่ยังคงถือหุ้นจำนวนมากอยู่
“น่าจะคุยกันก่อน ว่ามีปัญหาหรือติดขัดอะไร ที่ไม่ยอมให้ผ่านวาระเพิ่มทุนและออก GREEN- W 5 อยู่ ๆ ก็เปลี่ยนใจ และหลังจากประชุมเสร็จก็ยังไม่ได้คุยกันเลย ยอมรับว่าครั้งนี้ประมาทไป ไม่ได้รวบรวมหนังสือมอบอำนาจหจากกลุ่มพันธมิตรผู้ถือหุ้นใหญ่ ”
แหล่งข่าวกล่าวว่า บริษัท ฯ ไม่มีปัญหาการเงินและสภาพคล่อง รวมทั้งไม่มีภาระหนี้สิน จึงไม่ได้รับผลกระทบจาก GREEN- W 5 คาดว่าการประชุมผู้ถือหุ้นคราวหน้า ไม่น่ามีปัญหาแบบนี้เกิดขึ้นอีก
สำหรับ GREEN ขณะนี้มีโครงการโซลาร์ฟาร์ม ในมือทั้งหมด 3 โครงการ ขนาด 9 เมกกะวัตต์ โดยโครงการที่ 1 ที่จังหวัดลพบุรี ขนาด 1 เมกกะวัตต์ จ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์แล้ว โครงการที่ 2 จังหวัดสระแล้ว ขนาด 3 เมกกะวัตต์ ภายในกลางเดือนส.ค.นี้ รับโอนโครงการ และโครงการที่ 3 ขนาด 5 เมกกะวัตต์ ที่ปากช่อง นครราชสีมา รับโอนโครงการเดือนกันยายน
“บริษัท มีสภาพคล่องเหลือ เงินสดในมือขณะนี้ 300 ล้านบาท และไม่มีหนี้ หลังจากจบโครงการที่ 3 นี้แล้ว บริษัทได้หาโอกาสลงทุนต่อเนื่อง ที่มีผลตอบแทนการลงทุนดี ๆ หรือ 2 หลักขึ้นไป ส่วนการออกวอร์แรนต์ชุดที่ 3 ยังดำเนินต่อไปคิดว่าเป็นปีหน้า ซึ่งเดิมที ไม่ได้ตั้งใจนำเข้าพิจารณาครั้งนี้ แต่เห็นว่ามีวาระพิจารณาค่าตอบแทนกรรมการ จึงนำเข้าพิจารณาทีเดียว เชื่อว่าปีหน้าไม่น่ามีปัญหาแล้ว “แหล่งข่าวกล่าว
ด้านราคาหุ้น GREEN ปรับตัวลดลงตั้งแต่เปิดตลาดช่วงบ่ายหลังรับรู้ข่าวบริษัทแจ้งว่าผู้ถือหุ้นไม่อนุมัติแผนเพิ่มทุนและออก GREEN-W5 โดยราคาลงแตะต่ำสุดที่ 1.26 บาท ลดลง 1.01 บาท หรือ 8% ก่อนขยับขึ้นปิด 1.28 บาท ลดลง 0.09 บาท หรือ -6.57% มูลค่าการซื้อขาย 17.85 ล้านบาท