PRINC ขายอาคารบางกอก บิสสิเนสฯ ให้ B-WORK มูลค่า 1.55 พันลบ.

HoonSmart.com>> บอร์ด “พริ้นซิเพิล แคปิตอล” อนุมัติขายที่ดินและอาคารบางกอก บิสสิเนส เซ็นเตอร์ เอกมัย มูลค่า 1,550 ล้านบาท ให้กองทรัสต์ B-WORK

บริษัท พริ้นซิเพิล แคปิตอล (PRINC) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติให้จำหน่ายที่ดินพร้อมอาคาร ได้แก่ อาคารบางกอก บิสสิเนส เซ็นเตอร์ เอกมัย กรุงเทพฯ ความสูง 30 ชั้น ซึ่งเป็นทรัพย์สินของบริษัทย่อยที่ใช้ในการประกอบกิจการอาคารสำนักงานให้เช่า ได้แก่ ทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์บัวหลวง ออฟฟิศ (B-WORK) ซึ่งเป็นผู้ซื้อ มูลค่าซื้อขายประมาณ 1,550 ล้านบาท

ทั้งนี้ การขายสินทรัพย์ดังกล่าวหลังจากได้รับการอนัุมัติจากกรรมการบริษัทและผู้ซื้อได้รับอนุมัติให้เข้าลงทุนในทรัพย์สินจากผู้ถือหน่วยทรัสต์ รวมทั้งการอนุมัติให้เสนอขายหลักทรัพย์ให้แก่ประชาชนจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)

ด้านบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์ B-WORK แจ้งว่า คณะกรรมการการลงทุนมีมติอนุมัติให้ผู้จัดการกองทรัสต์เข้าทำธุรกรรมการเข้าลงทุนในทรัพย์สินที่จะลงทุนเพิ่มเติมครั้งที่ 1 เนื่องจากเห็นว่าการเข้าทำธุรกรรมดังกล่าวมีความสมเหตุสมผลและเป็นประโยชน์ต่อผู้ถือหน่วยทรัสต์ โดยคาดว่าการลงทุนในทรัพย์สินที่จะลงทุนเพิ่มเติมครั้งที่ 1 ในครั้งนี้ จะทำให้ประมาณการอัตราเงินจ่ายต่อหน่วย (Distribution per Unit หรือ DPU) ของผู้ถือหน่วยทรัสต์ในช่วงประมาณการ 12 เดือนข้างหน้าไม่น้อยไปกว่าเดิม เมื่อเทียบกับกรณีที่ไม่มีการลงทุนในทรัพย์สินที่จะลงทุนเพิ่มเติมครั้งที่ 1

อีกทั้งยังช่วยให้กองทรัสต์สามารถกระจายความเสี่ยงจากการจัดหาผลประโยชน์จากอสังหาริมทรัพย์และเพิ่มระยะเวลาเฉลี่ยในการจัดหาผลประโยชน์ของทรัพย์สินที่กองทรัสต์ลงทุนส่งผลให้กองทรัสต์มีโอกาสที่จะสร้างผลตอบแทนให้กับผู้ถือหน่วยทรัสต์ที่มั่นคงมากยิ่งขึ้น

สำหรับแหล่งเงินทุนที่ใช้ในการลงทุนในทรัพย์สินที่จะลงทุนเพิ่มเติมครั้งที่ 1 ประกอบด้วย 1) การออกและเสนอขายหน่วยทรัสต์เพื่อการลงทุนในทรัพย์สินที่จะลงทุนเพิ่มเติมครั้งที่ 1 และ 2)การกู้ยืมเงินจากสถาบันการเงินในวงเงินกู้ยืมระยะยาว/ระยะสั้น และ/หรือ 3) การออกและเสนอขายหุ้นกู้ของกองทรัสต์

แหล่งเงินทุนส่วนหนึ่งจะกู้ยืมเงินจากสถาบันการเงิน ในวงเงินกู้ยืมระยะยาว/ระยะสั้นทั้งหมดจำนวนไม่เกิน 1,000 ล้านบาทโดยกองทรัสต์อาจเข้าทำสัญญากู้ยืมเงินกับสถาบันการเงินที่เป็นบุคคลที่เกี่ยวโยงกันกับผู้จัดการกองทรัสต์ตามกฎหมายและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง ซึ่งรวมถึงธนาคารกรุงเทพ ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของผู้จัดการกองทรัสต์ โดยถือหุ้นทางตรงรวม 75% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดของผู้จัดการกองทรัสต์