“ทาทา สตีล” ไตรมาสแรกกำไรสุทธิ 55.61 ล้านบาท จากงวดปีก่อนขาดทุน 46 ล้านบาท เหตุยอดขายเหล็กต่างประเทศเพิ่มขึ้น แม้ความต้องการเหล็กในประเทศยังไม่กระเตื้องขึ้น
บริษัท ทาทา สตีล (ประเทศไทย) หรือ TSTH แจ้งผลการดำเนินงานไตรมาส 1 สิ้นสุดวันที่ 30 มิ.ย.2561 กำไรสุทธิ 55.61 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.01 บาท จากงวดเดียวกันของปีก่อนขาดทนสุทธิ 46.09 ล้านบาท ขาดทุนต่อหุ้น 0.01 บาท
บริษัทฯ แจ้งว่า งวดไตรมาส 1 ของปีการเงิน 2562 (เมษายน-มิถุนายน 2561) กำไรเพิ่มขึ้นเป็นผลมาจากการปรับราคาขายและยอดขายเพิ่มขึ้น โดยบริษัทฯ มีปริมาณการขายจำนวน 281,000 ตัน ต่ำกว่าไตรมาสที่แล้วจำนวน 35,000 ตันหรือ 11% ความต้องการเหล็กเส้นในประเทศยังไม่กระเตื้องขึ้น ปริมาณการขายสินค้าภายในประเทศที่ลดลงได้ถูกชดเชยด้วยปริมาณการส่งออกที่เพิ่มขึ้น ไปยังประเทศอินเดียกัมพูชา และ ลาวที่สูงขึ้น
ยอดขายสุทธิซึ่งลดลงจากไตรมาสก่อนสะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของตลาดที่ลดลง อย่างไรตาม ยังคงสูงกว่าปีก่อน ซึ่งเป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของต้นทุนวัตถุดิบ EBITDA ของไตรมาสที่ 1 ปีการเงิน 2562 อยู่ที่ 216 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาสที่แล้ว 20% และเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 56%
อย่างไรก็ตาม ปริมาณการขายในไตรมาสที่ 1 สูงขึ้น 2% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ความต้องการเหล็กเส้นในประเทศยังไม่กระเตื้องขึ้น ในขณะที่ความต้องการสินค้าเหล็กลวดสำเร็จรูปมีแนวโน้มชะลอตัว สะท้อนให้เห็นถึงบรรยากาศของตลาดที่ซบเซา โดยบริษัทฯ มียอดขายในไตรมาส 1 จำนวน 5,443 ล้านบาท ลดลง 11% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่แล้ว แต่สูงขึ้น 18% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนราคาขายปรับตัวสูงขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนสะท้อนถึงแนวโน้มของราคาวัตถุดิบที่เพิ่มสูงขึ้น
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง แนะนำ ถือ แม้ราคาปัจจุบันซื้อขายต่ำกว่ามูลค่าตามบัญชีที่ 1.10 บาทต่อหุ้น จึงให้ราคาเป้าหมายเท่ากับมูลค่าหุ้นทางบัญชี รอสถานการณ์ต้นทุนเศษเหล็กผ่อนคลาย อีกทั้งยังมีความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนของราคาเหล็กในตลาดโลก ความต้องการเหล็กเส้นในประเทศยังอ่อนแอ อีกทั้งภาวะล้นตลาดของอุตสาหกรรมเหล็กในประเทศและต่างประเทศ
ขณะที่ฐานะการเงินของ TSTH ปัจจุบันแข็งแกร่งภาระหนี้เงินกู้ที่มีดอกเบี้ยเพียง 1.3 พันล้านบาท หนี้สินต่อทุนต่ำ 0.07 เท่า