HoonSmart.com>> ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ดาวโจนส์ปิดร่วง 469 จุด วิตกอัตราผลตอบแทนพันธบัตร-เงินเฟ้อ แรงขายหุ้นกลุ่มพลังงานและแบงก์ ด้านแนสแด็กสวนทางปิดบวก แรงซื้อกลับหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีขนาดใหญ่ หลังถูกเทขายหนักก่อนหน้า ด้านตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปรับตัวลดลง ราคาน้ำมันดิบร่วง
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2564 ปิดที่ 30,932.37 จุด ลดลง 469.64 จุด หรือ 1.50% แต่พ้นจากจุดต่ำสุดของวัน หลังจากที่ซื้อขายผันผวน
ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 3,811.15 จุด ลดลง 18.19 จุด, -0.48%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,192.34 จุด เพิ่มขึ้น 72.91 จุด, +0.56%
ดัชนี S&P 500 ลดลงจากการปรับตัวลดลงของหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มธนาคาร ส่วนดัชนี Nasdaq สวนตลาดจากหุ้นเทคโนโลยีใหญ่ฟื้นตัวหลังที่โดนกระหน่ำขายก่อนหน้านี้ อันเป็นจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่สูงขึ้น
ในสัปดาห์นี้ดัชนีหลักทั้งสามปรับตัวลดลง โดยดัชนี S&P 500 ลดลง 2.5% ติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่สองส่วนดัชนี DJIA ลดลง 1.8% และดัชนี Nasdaq ลดลง 4.9% อย่างไรก็ตามในรอบเดือนนี้ ดัชนี S&P 500 และ ดัชนี DJIA เพิ่มขึ้น 2.6% และ 3.2% ตามลำดับ ส่วนดัชนี Nasdaqเพิ่มขึ้น 0.9%
ตลาดอ่อนตัวลงแม้ กระทรวงพาณิชย์เผย ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE)เดือนมกราคม เพิ่มขึ้น 0.3 สูงกว่า 0.2% ที่นักวิเคราะห์คาด และเมื่อเทียบรายปี ดัชนี PCE เพิ่มขึ้น 1.5% ส่วนการใช้จ่ายส่วนบุคคลของผู้บริโภคสหรัฐเพิ่มขึ้น 2.4% แต่ต่ำกว่า 2.5% ที่นักวิเคราะห์คาด หลังจากลดลง 0.2% ในเดือนธันวาคม
มหาวิทยาลัยมิชิแกนเผยผลสำรวจ ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคเดือนกุมภาพันธ์ลดลงมาที่ระดับ 76.8 จาก 79.0 ในเดือนมกราคม
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี ลดลงมาที่ 1.42% หลังจากที่พุ่งไปที่ 1.6% ในวันก่อนหน้า แต่หุ้นยังปรับตัวลดลงจากความวิตกว่า อัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่สูงขึ้นอาจจะมีผลให้การวิ่งขึ้นยาวๆของตลาดจะหยุดชะงัก
ตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปรับตัวลดลง ตามตลาดหุ้นโลกที่ปั่นป่วนจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้นักลงทุนเทขายหุ้น โดยหุ้นกลุ่มทรัพยากรพื้นฐานลดลง 4.3% จากระดับสูงสุดในรอบเกือบ 10 ปี และเป็นการปรับตัวลงวันเดียวรุนแรงที่สุดในรอบ 5 เดือน
ในอังกฤษอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี Gilt เพิ่มขึ้นมาที่ 0.816% ส่วนอั ตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 5 ปี และ 2 ปี เพิ่มขึ้นมาที่ 0.396% และ 0.121% ตามลำดับ หลังจากนักเศรษฐศาสตรธนาคารกลางอังกฤษเตือนว่า การจัดการเงินเฟ้ออาจจะทำได้ยากและอาจจะมีผลให้การดำเนินนโยบายเข้มงวดขึ้น
ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียน โดยหุ้น IAG บริษัทแม่ของสายการบิน บริติชแอร์เวย์ลดลง 3.1% จากผลขาดทุนของปี 2020 ที่ 7.4 พันล้านยูโร สูงสุดเป็นประวัติการณ์
ดัชนี Stoxx 600 ปิดที่ 404.99 จุด ลดลง 6.74 จุด, -1.64%
ดัชนี FTSE 100 ปิดที่ 6,483.43 จุด ลดลง 168.53 จุด, -2.53%
ดัชนี CAC 40 ปิดที่ 5,703.22 จุด ลดลง 80.67 จุด, -1.39%
ดัชนี DAX ปิดที่ 13,786.29 จุด ลดลง 93.04 จุด, -0.67%
ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนเมษายนลดลง 2.03 ดอลลาร์ หรือ 2.3% ปิดที่ 61.50 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนเมษายนซึ่งครบกำหนดส่งมอบแล้ว ลดลง 75 เซนต์ หรือ 1.1% ปิดที่ 66.13 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพฤษภาคมลดลง 1.69 ดอลลาร์ หรือ 2.6% ปิดที่ 64.42 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
อ่านข่าว
