TQM ลั่นปี 64 ยอดขายทะลุ 2.5 หมื่นลบ. กำไรนิวไฮต่อ

HoonSmart.com>>“ทีคิวเอ็มฯ” ลั่นยอดขายปี 64 มากกว่า 2.5 หมื่นล้านบาท เตรียมควบรวมกิจการ 2 ราย รออนุมัติเข้าลงทุน TQR  กลยุทธ์เน้นลูกค้าองค์กร ออกผลิตภัณฑ์หลากหลาย โชว์กำไรปี 63 อยู่ที่ 702 ล้านบาท นิวไฮ โต 38.4% บอร์ดไฟเขียวปันผล 1.15 บาท

ดร.อัญชลิน พรรณนิภา ประธานกรรมการ บริษัท ทีคิวเอ็ม คอร์ปอเรชั่น (TQM) เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่าในปี 2564 จะมียอดขายมากกว่า 25,000 ล้านบาท  จากปีที่ผ่านมาทำได้ 15,000 บาท โดยมาจากธุรกิจของบริษัทฯประมาณ 17,250 ล้านบาท ธุรกิจต่างประเทศและรับรู้ผลตอบแทนจากการควบรวมกิจการ (M&A) อีกประมาณ 10,000 ล้านบาท

ส่วนความคืบหน้าในการควบรวมกิจการ (M&A) ปัจจุบันกำลังเจรจาอยู่ประมาณ 3 ราย แบ่งเป็นนายหน้าธุรกิจประกันภัย 2 ราย และเข้าลงทุนในบริษัท ที คิว อาร์ (TQR) โดยซื้อหุ้นจากครอบครัว”พรรณนิภา” ที่ถือหุ้นอยู่  44.35% รวมถึงร่วมทุนกับพันธมิตรจัดตั้งบริษัทย่อยด้วย  เพื่อดำเนินการตามกลยุทธ์ส่งเสริมธุรกิจให้กันและกัน โดยใช้เงินลงทุนจากกระแสเงินสดในมือประมาณ 3,300 ล้านบาท

ดร.อัญชลินกล่าวว่า กลยุทธ์ในปีนี้จะมุ่งเน้นเบี้ยประกันองค์กรมากขึ้น นำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ๆที่ตอบโจทย์ลูกค้า  คาดว่าจะได้ยอดขายประมาณ 150 ล้านบาท รวมถึงจะออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ แบบเฉพาะกลุ่มมากขึ้น  เน้นความคุ้มครองที่คุ้มค่าภายใต้ราคาที่จับต้องได้ และการนำดิจิตอล มาปรับใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพงานขายและการบริการอย่างเต็มรูปแบบ

นอกจากนี้บริษัทได้เข้าลงทุนในบริษัท อีซี่ เลนดิ้ง  ธุรกิจบริการสินเชื่อส่วนบุคคลเพื่อซื้อประกันภัยและสินเชื่อบุคคลเอนกประสงค์ ปัจจุบันยังอยู่ระหว่างการขออนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.)

“ในปีนี้เราลงทุนค่อนข้างเยอะ จะมีทั้งการซื้อกิจการ และร่วมทุนกับพันธมิตร  จะทำให้เติบโตขึ้นไปอีกขั้น  เพื่อให้บรรลุเป้าหมายในปี 2569 ยอดขายแตะ 50,000 ล้านบาท แบ่งออกเป็นการเติบโตจาก TQM ประมาณ 35,000 ล้านบาท และผลตอบแทนจากการซื้อกิจการอีก 15,000 ล้านบาท” ดร.อัญชลิน กล่าว

สำหรับการกลับมาระบาดของโควิด-19 อีกครั้งในช่วงปลายปีก่อน ทำให้ผู้บริโภคหันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้น ส่งผลให้ประกันสุขภาพแบบเฉพาะโรค อย่างประกันโควิด-19 ที่มียอดขายทะลุล้านกรมธรรม์ ปัจจุบันยังมีคำสั่งซื้อทั้งลูกค้าที่ต่ออายุและลูกค้ารายใหม่เข้ามาต่อเนื่อง ส่งผลให้รายได้ในปี 63 เพิ่มขึ้น 12.17% อยู่ที่ 3,136 ล้านบาท มาจากรายได้บริการ 3,082.5 ล้านบาท  ดอกเบี้ยและผลตอบแทนจากเงินลงทุน 53.5 ล้านบาท ซึ่งบริษัทยังมีการบริหารจัดการและควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้มีกำไรสุทธิ 702 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 38.4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ทำสถิติใหม่สูงสุด (นิวไฮ) ต่อเนื่อง

ด้านคณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผล 1.15 บาทต่อหุ้น ให้ผู้ถือหุ้นได้รับสิทธิวันที่  10 มี.ค. และขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 9 มี.ค. และจ่ายเงินปันผลในวันที่ 14  พ.ค. 2564