ดาวโจนส์ปิดบวกเล็กน้อย 27 จุด อัตราผลตอบแทนพันธบัตรเพิ่มขึ้น

HoonSmart.com>> ดาวโจนส์ปิดบวกเล็กน้อย 27 จุด ท่ามกลางความวิตกอัตราผลตอบแทนพันธบัตรเพิ่มขึ้น ด้านตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลดลง ราคาน้ำมันดิบพุ่งกว่า 3% ราคา WTI กลับมายืนเหนือ 60 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2564ปิดที่ 31,521.69 จุด เพิ่มขึ้น 27.37 จุด หรือ 0.09% จากการปรับขึ้นของกลุ่มที่ได้รับผลดีจากเศรษฐกิจ หลัง จากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ขณะที่ดัชนี S&P500 และดัชนี Nasdaq อ่อนตัวลง จากการปรับตัวลดลงของกลุ่มเทคโนโลยี ท่ามกลางความกังวลว่าอัตราเงินเฟ้อจะมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นและมีผลต่อมูลค่าหุ้น

ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,876.50 จุด ลดลง 30.21 จุด, -0.77%

ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,533.05 จุด ลดลง 341.42 จุด, -2.46%

หุ้นแอปเปิล หุ้นแอมะซอน หุ้นไมโครซอฟต์ต่างลดลงอย่างน้อย 2%

นักลงทุนบางส่วนวิตกต่อ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นติดต่อกันหลายสัปดาห์ว่าจะกระทบต่อหุ้นที่มีการเติบโตสูงซึ่งพึ่งหาเงินกู้อย่างมาก และทำให้หุ้นหมดความน่าสนใจ ประกอบกับหุ้นเทคโนโลยีปรับตัวสูงต่อเนื่องตั้งแต่มีการระบาดของไวรัสโควิด-19 นักลงทุนจึงขายทำกำไรและหันไปลงทุนในหุ้นที่จะไดรับผลดีจากเศรษฐกิจฟื้นตัว

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีเพิ่มขึ้นมาที่ 1.363% สูงสุดตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2020 และเพิ่มขึ้นแล้ว 27 จุดในเดือนนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 30 ปีเพิ่มขึ้นมาที่ 2.2% สูงสุดในรอบปี

นักลงทุนบางส่วนมองว่า การที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตร คือสัญญานของความเชื่อมั่นต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้นและหุ้นจะรับผลของอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นได้ด้วยผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง

นักวิเคราะห์ระบุว่า อัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่เพิ่มขึ้นนี้ไม่ถือว่าเป็นปัจจัยลบต่อตลาด เนื่องจากเป็นช่วงเริ่มต้นของการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และนโยบายการเงินการคลังยังคงสนับสนุน อีกทั้งผลการดำเนินงานฟื้นตัวแข็งแกร่ง ราคาหุ้นยังน่าสนใจ จึงคงคำแนะนำ overweight หุ้น

นักลงทุนยังจับตาการแถลงนโยบายรอบครึ่งปีต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารของวุฒิสภาของนายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ตามเวลาในสหรัฐฯ ซึ่งความเห็นเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยและเงินเฟ้อจะกำหนดทิศทางตลาดในสัปดาห์นี้

นอกจากนี้นางคริสตีน ลาการ์ด ประธานธนาคารกลางสหภาพยุโรป (European Central Bank:ECB) กล่าวสุนทรพจน์ว่า ECB เกาะติดความเคลื่อนไหวของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาวอย่างใกล้ชิด ส่งผลให้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรในยุโรปปรับตัวลดลง

ธนาคารกลางสาขาชิคาโกเผย ดัชนี Chicago Fed National Activity Index (CFNAI) เดือนมกราคมปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 0.66 และสูงกว่า 0.15 ที่นักวิเคราะห์คาด

หุ้นสายการบินปรับตัวเพิ่มขึ้นหลังจากดอยช์แบงก์ปรับคำแนะนำเป็น ซื้อ โดยหุ้นอเมริกันแอร์ไบน์เพิ่มขึ้นกว่า 9% แต่หุ้นโบอิ้ง ลดลง 2.11% หลังจากสายการบินยูไนเต็ดแอร์ไลน์สประกาศระงับใช้เครื่องบินโบอิ้ง 777 ชั่วคราว จากเหตุเครื่องยนต์ระเบิดจนทำให้ต้องร่อนลงจอดฉุกเฉินที่สนามบินนานาชาติเดนเวอร์เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา

ตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปรับตัวลดลง ตามตลาดหุ้นโลก นำโดยกลุ่มเทคโนโลยีที่ลดลง 1.9% ที่ถูกขายทำกำไร จากความกังวลต่อแนวโน้มเงินเฟ้อที่สูงขึ้น แม้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรในยุโรปปรับตัวลดลง

หลังจากนางคริสตีน ลาการ์ด ประธานธนาคารกลางสหภาพยุโรป(European Central Bank:ECB) กล่าวสุนทรพจน์ว่า ECB เกาะติดความเคลื่อนไหวของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาวอย่างใกล้ชิด

นักลงทุนยังเกาะติดสถานการณ์ระบาดของไวรัสและการฉีดวัคซีน ขณะที่อังกฤษเตรียมที่จะทะยอยผ่อนปรนมาตรการล็อกดาวน์ในเดือนหน้า หลังจากที่การฉีดวัคซีนคืบหน้าตามแผน ส่งผลให้หุ้น Tui ผู้ให้บริการเดินทางในเยอรมนีเพิ่มขึ้นกว่า 5%

สถาบัน Ifo ในเยอรมนีเผย ดัชนีความเชื่อมั่นธุรกิจเดือนกุมภาพันธ์เพิ่มขึ้นมาที่ 92.4 จุดจาก 90.3 จุดในเดือนมกราคม

ดัชนี Stoxx 600 ปิดที่ 413.06 จุด ลดลง 1.82 จุด, -0.44%

ดัชนี FTSE 100 ปิดที่ 6,612.24 จุด ลดลง 11.78 จุด, -0.18%

ดัชนี CAC 40 ปิดที่ 5,767.44 จุด ลดลง 6.11 จุด, -0.11%

ดัชนี DAX ปิดที่ 13,950.04 จุด ลดลง 43.19 จุด, -0.31%

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนมีนาคม เพิ่มขึ้น 2.25 ดอลลาร์ หรือ 3.8% ปิดที่ 61.49 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนเมษายนเพิ่มขึ้น 2.33 ดอลลาร์ หรือ 3.7% ปิดที่ 65.24 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

 
 
อ่านข่าว

ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่ลดลง

ราคาน้ำมันดิบพุ่งกว่า 3% สหรัฐฯ กลับมาผลิตช้ากว่าคาด