ดาวโจนส์ปิดร่วง 119 จุด ยอดรับสวัสดิการว่างงานสูงเกินคาด
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2564ปิดที่ 31,493.34 จุด ลดลง 119.68 จุด หรือ 0.38% เพราะนักลงทุนผิดหวังข้อมูลการยื่นรับสวัสดิการที่สูงกว่าคาด รวมทั้งการคาดการณ์แนวโน้มผลการดำเนินงานของวอลลมาร์ท ขณะที่ความกังวลว่าเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยจะมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น ได้ทำให้มีแรงขายทำกำไรในหุ้นที่ราคาปรับขึ้นไปสูงแล้วในกลุ่มเทคโนโลยีและกลุ่มสื่อสาร
ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,913.97 จุด ลดลง 17.36 จุด หรือ -0.44%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,865.36 จุด ลดลง 100.14 จุด หรือ -0.72%
กระทรวงแรงงาน เผยการยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกซึ่งเป็นดัชนีชี้วัดเศรษฐกิจในสัปดาห์ที่แล้วมีจำนวน 861,000 ราย จาก 848,000 ราย ในสัปดาห์ก่อนหน้า สูงสุดในรอบเดือนและสูงกว่า 773,000 ราย ที่นักวิเคราะห์คาด ซึ่งนักวิเคราะห์ระบุว่า เป็นข้อมูลที่นักลงทุนไม่ต้องการเห็น เพราะมีการฉีดวัคซีนอย่างต่อเนื่องและจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสรายใหม่ลดลง
ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน โดยเฉพาะผลกำไรของวอลล์มาร์ท ที่ต่ำกว่าเป้าในไตรมาส 4 ปีที่แล้ว รวมทั้งยังประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงานปีนี้ทั้งปีโตไม่มาก และยังประ กาศ แผนซื้อหุ้นคืนรวมมูลค่า 20 พันล้านดอลลาร์ ปรับการจ่ายเงินปันผลเพิ่มเป็น 2.20 ดอลลาร์ต่อหุ้นจาก 2.16 ดอลลาร์ต่อหุ้น
บริษัทจะปรับค่าแรงพนักงานใน บริการคลังสินค้าพร้อมจัดส่งที่รองรับการขายออนไลน์ เป็นเฉลี่ย 15 ดอลลาร์ต่อชั่วโมง จากปัจุบันค่าแรงขั้นต่ำของบริษัทเริ่มต้นที่ 11 ดอลลาร์ต่อชั่วโมง
หุ้นวอลล์มาร์ท ลดลง 6.67%
นักวิเคราะห์ระบุว่า ปัจจัยเสี่ยงได้กลับมาเป็นประเด็นในตลาดอีกครั้ง โดยเฉพาะความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อ
กระทรวงแรงงานเผย ดัชนีราคานำเข้าเดือนมกราคมเพิ่มขึ้น 1.4% จากเดือนก่อนหน้า ซึ่งสูงกว่าคาดเมื่อเทียบรายเดือน และเพิ่มขึ้นมากสุด นับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2015 ส่วน ดัชนีราคาส่งออกเพิ่มขึ้น 2.5% จากเดือนก่อน เพิ่มขึ้นมากสุดนับตั้งแต่เริ่มมีการรวบรวมข้อมูลในเดือนธันวาคม 1988
หุ้นแอปเปิล ลดลง 0.86% หุ้นอัลฟาเบท ลดลง 0.6% หุ้นเทสลา ลดลง 1.35% หุ้นเน็ตฟลิกซ์ ลดลง 0.57% หุ้นอินเทล ปรับลง 0.4% หุ้น AMD ลดลง 1.45%
หุ้นเฟซบุ๊ก ลดลง 1.53% จากรายงานว่า บริษัทปิดกั้นไม่ให้ผู้ใช้งานในออสเตรเลียเข้าถึงข่าวสารทั้งหมด เพื่อตอบโต้รัฐบาลออสเตรเลียที่จะใช้กฎหมาย Media Code ซึ่งจะมีผลให้บริษัทเทคโนโลยี เช่น กูเกิลและเฟซบุ๊ก ต้องจ่ายเงินให้กับบรรดาบริษัทสื่อท้องถิ่นเมื่อนำคอนเทนต์ของสื่อเหล่านั้นไปใช้
นอกจากนี้ ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านเดือนมกราคม ลดลง 6.0% มาที่ระดับ 1.580 ล้านยูนิต ต่ำกว่า1.658 ล้านยูนิตที่นักวิเคราะห์คาด และลดลง 2.3% จากระยะเดียวกันของปีก่อน ซึ่งสะท้อนว่าเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่
หุ้น GameStop ลดลง 11.43% จากคณะกรรมาธิการการเงินของสภาผู้แทนราษฎรเริ่มไต่สวนผู้บริหารของ Robinhood ซึ่งเป็นบริษัทโบรกเกอร์ออนไลน์ ผู้บริหารของกองทุนเฮดจ์ฟันด์ Citadel และ Melvin Capital รวมทั้งผู้จัดการเว็บบอร์ด Reddit ร่วมในปรากฎการณ์ราคาที่มีผลต่อความผันผวนของตลาดหุ้นวอลล์สตรีท
ตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปรับตัวลดลง นักลงทุนผิดหวังผลการดำเนินงานบริษัทใหญ่ ทั้งแอร์บัส บาร์เคลย์ แดมเลอร์ และออเรนจ์ รวมทั้งข้อมูลตลาดแรงงานสหรัฐฯ แต่กลุ่มเหมืองแร่ปรับตัวจากแนวโน้มราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่เพิ่มขึ้น
หุ้นบาร์เคลย์ ลดลง 4.4% จากกำไรทั้งปี 2020 ลดลง 38% จากปี 2019 แต่รายได้จากธุรกิจวาณิชธนกิจเพิ่มขึ้น 22%
หุ้นแอร์บัสลดลง 2.8% จากกำไรจากการดำเนินงานทั้งปีลดลง 75%
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 412.70 จุด ลดลง 3.40 จุด, -0.82%