PTT กำไร 3.78 หมื่นลบ.ปี 63 วูบ 59% จ่ายปันผล 0.82 บาท

HoonSmart.com>> ปตท.เปิดงบปี 63 กำไรลดเหลือ 3.78 หมื่นล้านบาท วูบ 59.4% จากงวดปีก่อน EBITDA ลดลง 6.33 หมื่นล้านบาท บริษัทลูกส่วนใหญ่ผลดำเนินงานลดลง ธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียมลดลง 22% ปิโตรเคมีและการกลั่น อ่วมขาดทุนสต็อกน้ำมัน บอร์ดควักกำไรสะสมจ่ายปันผลผู้ถือหุ้นอัตรา 0.82 บาท ขึ้น XD 4 มี.ค. จ่ายเงิน 30 เม.ย.นี้

บริษัท ปตท. (PTT) เปิดเผยผลการดำเนินงานปี 2563 สิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค.2563 กำไรสุทธิ 37,765.81 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 1.32 บาท ลดลง 59.4% จากปีก่อนที่มีกำไร 92,950.60 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 3.20 บาท

คณะกรรมการบริษัทฯ มีมติให้จ่ายเงินปันผลจากกำไรสะสมในอัตราหุ้นละ 0.82 บาท กำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับปันผล (Record date) วันที่ 5 มี.ค. 2564 ขึ้น XD วันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล 4 มี.ค. 2564 และจ่ายเงินปันผลในวันที่ 30 เม.ย. 2564

ในปี 2563 ปตท.และบริษัทย่อยมี EBITDA จำนวน 225,672 ล้านบาท ลดลง 63,300 ล้านบาท หรือ 21.9% จาก 288.972 ล้านบาทในปี 2562 สาเหตุหลักจากธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียมที่ผลการดำเนินงานลดลงตามราคาขายเฉลี่ยลดลง แม้ปริมาณขายจะเพิ่มขึ้นโดยหลักจากโครงการมาเลเซียและกลุ่ม Partex ภายหลังการเข้าซื้อธุรกิจในช่วงครึ่งหลังของปีก่อน

ประกอบกับผลการดําเนินงานของกลุ่มธุรกิจปิโตรเคมีและการกลั่นลดลงอย่างมากเช่นกัน โดยหลักจากขาดทุนสต็อกน้ํามันในปี 2563 จํานวนประมาณ 19,000 ล้านบาท ตามราคาน้ํามันดิบที่ปรับลดลงอย่างมากจาก ณ สิ้นปี 2562 ที่ 67.3 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล มาอยู่ที่ 51.1 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ณ สิ้นปี 2563 เนื่องจากสงครามราคาน้ํามัน สภาวะอุปทานล้นตลาดของน้ํามันดิบ ประกอบกับความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์น้ํามันสําเร็จรูปและผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีลดลงจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจ เนื่องจากการแพร่ระบาดของ COVID-19

ในขณะที่ปี 2562 มีกําไรสต็อกน้ํามันประมาณ 2,800 ล้านบาท โดย Market GRM ปรับลดลงจาก 2.7 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ในปี 2562 เป็น 0.8 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ในปี 2563 ตามส่วนต่างราคาน้ํามันสําเร็จรูปกับน้ํามันดิบที่ลดลงในเกือบทุกผลิตภัณฑ์ และ Accounting GRM ลดลงจากอย่างมากจาก 3.0 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ในปี 2562 เป็นขาดทุน (0.8) เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ในปี 2563 และส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีกับวัตถุดิบทั้งสายโอเลฟินส์และอะโรเมติกส์ส่วนใหญ่ปรับลดลง

นอกจากนี้ กลุ่มธุรกิจก๊าซธรรมชาติมีผลการดําเนินงานลดลง โดยหลักจากธุรกิจโรงแยกก๊าซฯ เนื่องจากราคาขายที่ลดลงตามราคาปิโตรเคมีอ้างอิงในตลาดโลกปรับลดลงและปริมาณขายที่ลดลงจากผลกระทบ COVID-19 ตามการปิดซ่อมบํารุงและปรับลดกําลังการผลิตให้เหมาะสมตามอุปสงค์ที่ลดลงของลูกค้าในปี 2563 และธุรกิจจัดหาและจัดจําหน่ายก๊าซฯ มีผลการดําเนินงานลดลง เนื่องจากราคาขายเฉลี่ยที่อ้างอิงราคาก๊าซฯและราคาน้ํามันเตาลดลง และปริมาณขายที่ลดลง

อย่างไรก็ตาม ผลการดําเนินงานของกลุ่มเทคโนโลยีและวิศวกรรมปรับตัวดีขึ้นจากการเข้าซื้อ GLOW ของ GPSC ในช่วงปลายไตรมาส 1 ปี 2562

นอกจากนี้ปี 2563 มีค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายที่เพิ่มขึ้นของธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียม และของธุรกิจเทคโนโลยีและวิศวกรรมที่เพิ่มขึ้นจากการเข้าซื้อกิจการ รวมถึงในปี 2563 มีการรับรู้รายการที่ไม่ได้เกิดขึ้นประจำตามสัดส่วนของ ปตท.จากการรับรู้ด้อยค่าสินทรัพย์สุทธิภาษีจำนวน 9,478 ล้านบาท โดยหลักจาธุรกิจถ่านหิน 7,700 ล้านบาท ธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียม 1,600 ล้านบาทและธุรกิจปิโตรเคมีและการกลั่น 180 ล้านบาท