GTG จับมือ ม.ราชภัฎเชียงราย ลุยผู้นำกัญชง

HoonSmart.com>>‘โกลเด้น ไทรแองเกิ้ล กรุ๊ป’ พร้อมเป็น ผู้นำธุรกิจกัญชง จับมือม.ราชภัฏเชียงราย วิจัย-พัฒนาสายพันธุ์  ขณะนี้ขอใบอนุญาตส่งออกสารสกัดกัญชาไปต่างประเทศ

กัญชง เป็นกระแสที่น่าตื่นเต้นขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อภาครัฐประกาศไฟเขียว ให้ใช้ประโยชน์จากพืชเศรษฐกิจใหม่ ที่มีสาร Cannabinoid (CBD) ซึ่งมีอยู่เฉพาะในพืชตระกูลกัญชงและกัญชา (Cannabis) หลายธุรกิจเตรียมเดินเครื่องวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ทั้งอาหารและการแพทย์ ใช้ประโยชน์จาก CBD เพื่อพัฒนาผลิตภัณท์มาวางขายในตลาด

ความแตกต่างของ กัญชง (Hemp) และกัญชา (Marijuana) ซึ่งเป็นพืชที่อยู่ในตระกูลเดียวกัน รูปแบบของต้นคล้ายกันมากจนอาจจะแยกไม่ออก ทั้งคู่ล้วนแต่มีสาร CBD ด้วยกันทั้งสิ้น แต่สิ่งที่เป็นตัวกำหนดต้นที่เพาะปลูกถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ คือปริมาณสาร THC ที่ออกฤทธิ์ต่อระบบประสาท ซึ่งฏหมายจัดให้เป็นสารเสพติดประเภทที่ 5 ในปัจจุบัน

ดังนั้นถ้าคิดจะเพาะปลูก หรือเข้ามาสู่ธุรกิจนี้ ต้องทำความเข้าใจและเลือกแม่พันธุ์ที่มาปลูกให้ถูกต้องตามกฏหมาย

หลาย ๆ บริษัท เริ่มทยอยประกาศตัวที่จะเข้ามาสู่ธุรกิจนี้ แต่ที่น่าจับตามองเป็นพิเศษ คือ บริษัท โกลเด้น ไทรแองเกิ้ล กรุ๊ป จำกัด (Golden Triangle Group Co., Ltd.) หรือ ‘GTG’  บริษัทที่ศึกษาวิจัยหาแม่พันธุ์กัญชงที่ถูกต้องตามกฏหมาย คือ มีปริมาณ THC ในช่อดอกแห้งไม่เกิน 1% และมีปริมาณ CBD สูง เพื่อนำมาผลิตสารสกัด CBD ที่มีปริมาณสาร THC ไม่เกิน 0.2% ซึ่งไม่ถือว่าเป็นยาเสพติดตามกฏหมายกำหนด

ปัจจุบัน GTG ประสบความสำเร็จในการพัฒนา และเป็นเจ้าของแม่พันธุ์กัญชง “RAKSA” ที่ให้สาร CBD เฉลี่ยในดอกแห้งทั้งต้นได้ถึง 15.8% ซึ่งถือว่าเป็นแม่พันธุ์กัญชง ที่ให้ปริมาณสาร CBD สูง เป็นอันดับต้น ๆ ของโลก

นายกฤษณ์ ธีรเกาศัลย์ หรือ “คริส”  ประธานกรรมการบริหาร และ ผู้ร่วมก่อตั้ง GTG เป็นอดีต Investment Banker ที่คร่ำหวอดในธุรกิจระหว่างประเทศมากว่าสิบปี อยู่เบื้องหลังความสำเร็จในหลายโครงการ เช่น การเข้าซื้อ Asset จากบริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ ในยุโรป และออสเตรเลีย อย่างเช่น Shell และการนำบริษัทน้ำมัน เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ออสโล (OSE) ซึ่งเป็นบริษัทรายแรก ๆ ของเอเชียที่ทำสำเร็จ อีกทั้งเป็นที่ปรึกษาทางการเงิน ในการทำ M&A (Merger & Acquisition) ดีล ให้แก่บริษัทชั้นนำ เช่น บางจาก และ ปตท.

“คริส” ได้ศึกษาธุรกิจใหม่ กัญชา-กัญชง (Cannabis) ซึ่งถูกกฏหมายและได้รับความประสบความสำเร็จอย่างมาก ทั้งด้านการแพทย์ อาหาร เครื่องสำอาง ฯลฯ ในประเทศแคนาดา สหรัฐอเมริกา อิสราเอล และสเปน ซึ่งสร้างธุรกิจและเม็ดเงินจำนวนมหาศาล

“คริส” เล็งเห็นโอกาสในการสร้างตลาด Cannabis ในเอเชีย เนื่องจากประเทศไทยมีภูมิประเทศและภูมิอากาศ ที่เหมาะสมในการเพาะปลูกมากกว่าประเทศข้างต้น จึงร่วมกับพาร์ทเนอร์ นายนิสิต สิทธิอาษา และ  Robert Stone ก่อตั้ง บริษัท โกลเด้น ไทรแองเกิ้ล กรุ๊ป หรือ GTG  ขึ้นมาเพื่อศึกษา วิจัยและพัฒนาเรื่องกัญชา-กัญชงอย่างเต็มรูปแบบ และร่วมกับมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย (‘CRRU’) เพื่อให้ได้แม่พันธุ์และวิธีการเพาะปลูกที่เหมาะสมกับสภาพภูมิอากาศของประเทศไทย

เป้าหมายต้องการเป็นผู้นำธุรกิจ Cannabis ทางด้าน Genetic และ Cultivation ของเอเชีย GTG จึงได้ซื้อสายพันธุ์จากผู้เชี่ยวชาญระดับโลก ด้านการพัฒนาสายพันธุ์และการเพาะปลูก ซึ่งมีประสบการณ์มากกว่า 30 ปี อย่าง Mr. Jaime Carrión (ผู้ก่อตั้งธนาคารเมล็ดพันธุ์ ‘Resin Seed’ และเป็นบุคคลแรก ๆ ที่เริ่มใช้ CBD เพื่อการแพทย์ในยุโรป) ทำให้ GTG เป็นบริษัทที่มีสายพันธุ์เป็นของตัวเอง

นอกจากนี้ GTG ได้รับเกียรติจาก นายชัชวาลย์ เจียรวนนท์ เจ้าของนิตยสาร Fortune Magazine มาเป็นประธานบริษัท  และนายพิชัย ชุณหวชิร ประธานกรรมการบริษัท บางจาก (BCP)  เป็นที่ปรึกษาและ กรรมการบริษัท

นายคริส เผยว่า “GTG ได้ลงนามความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงรายตั้งแต่ปี พ.ศ.2562 สร้างศูนย์วิจัยเพื่อศึกษาและพัฒนาสายพันธุ์ โดยควบคุมสภาพน้ำ สารอาหาร และอากาศ ให้มั่นใจว่าจะได้ต้นกัญชา-กัญชงที่มีคุณภาพสูง GTG ศึกษา และวิจัยแม่พันธุ์ที่มีความเหมาะสมกับสภาพอากาศในประเทศไทย กว่า 12 สายพันธ์ จนประสบความสำเร็จในการพัฒนาแม่พันธุ์ที่มีสาร CBD ในดอกแห้งเฉลี่ยทั้งต้นได้ถึง 15.8% ซึ่งถือว่าสูงเป็นอันดับต้นๆ ของโลก (ค่าเฉลี่ยที่ต่างประเทศทำได้อยู่ที่ประมาณ 10%) ในขณะที่มีปริมาณ THC ต่ำกว่า 1% ซึ่งเป็นเจ้าแรกและเจ้าเดียวในเอเชีย

นอกจากนี้ GTG ได้ศึกษาทดลองนำ CBD เข้าไปใช้ผสมในผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ แล้ว
ปัจจุบัน ประเทศไทยไฟเขียวกับกฏหมายกัญชง ถือเป็นการเปิดประตูของอุตสาหกรรมใหม่ ด้าน GTG พร้อมเต็มที่กับการทำ business collaboration ร่วมกับธุรกิจและอุตสาหกรรมต่างๆ เพื่อผลิต Precised CBD สกัดคุณภาพสูงให้กับผู้ประกอบการนำไปใช้ในอุตสาหกรรมต่างๆ ทั้งธุรกิจอาหาร และยา เครื่องดื่ม เครื่องสำอางค์ สปา ฯลฯ

ปัจจุบันโครงการที่ดำเนินการระหว่าง CRRU-GTG อยู่ในช่วงขอใบอนุญาตส่งออกตัวอย่างพืชกัญชาและสารสกัดกัญชาไปยังต่างประเทศ เพื่อใช้ศึกษาวิจัยทางการแพทย์ ซึ่งได้รับความร่วมมือจาก สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ให้เป็นกรณีศึกษาในขั้นตอนการดำเนินการและกระบวนการส่งออกพืชกัญชาไปต่างประเทศ