HoonSmart.com>> บลจ.กรุงไทย แนะธีมลงทุน “มั่งมีศรีสุข” ต้อนรับเทศกาลตรุษจีน จัดพอร์ตกระจายลงทุนตามความเสี่ยง รับมือความผันผวนสูงปีนี้สูงขึ้น ตอบโจทย์นักลงทุนไม่มีเวลาติดตามสถานการณ์
นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กรุงไทย (KTAM) เปิดเผยว่า สถานการณ์การลงทุนทั้งในตลาดเงิน ตลาดทุน ทั่วโลก ณ ปัจจุบัน อาจจะต้องเผชิญความเสี่ยงหรือความผันผวนที่สูงขึ้นในปี 2564 ทั้งจากสาเหตุความไม่แน่นอนของสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ในแต่ละภูมิภาค ตัวเลขทางเศรษฐกิจโดยรวมที่เริ่มมีการปรับประมาณการการเติบโตลงจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (International Monetary Fund) หรือ IMF รวมถึงความสามารถในการสร้างผลกำไรของบริษัทจดทะเบียนต่างๆ ว่าจะยังสามารถสร้างผลการดำเนินงานให้เป็นไปตามประมาณได้มากน้อยเพียงใด
“จากปัจจัยที่มีความไม่แน่นอนนี้ บลจ.กรุงไทย จึงแนะนำนักลงทุนให้มองหาทางเลือกการลงทุนที่เหมาะสมและสามารถเพิ่มโอกาสสร้างความมั่นคงจากการลงทุนในระยะยาวได้ สำหรับในช่วงตรุษจีนนี้ ธีมการลงทุนแบบ “มั่งมีศรีสุข” จึงน่าจะตอบโจทย์สำหรับนักลงทุนที่อาจจะไม่มีเวลาติดตามสถานการณ์ ข่าวสาร การเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วนั่นเอง”นางชวินดา กล่าว
ธีมการลงทุนแบบ “มั่งมีศรีสุข” ประกอบด้วย 4 กองทุน ได้แก่
กองทุนเปิดกรุงไทยมั่งคั่ง (KTMUNG-A) เหมาะกับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูงประมาณการสัดส่วนการลงทุนเน้นตราสารทุน 75% ตราสารหนี้สัดส่วน 15% ตราสารทางเลือก 10%
กองทุนเปิดกรุงไทยมีทรัพย์ (KTMEE-A) เหมาะกับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ตั้งแต่ปานกลางถึงสูง มีประมาณการสัดส่วนการลงทุนในตราสารทุน 50% ตราสารหนี้สัดส่วน 40% ตราสารทางเลือก 10%
กองทุนเปิดกรุงไทยศรีสิริ (KTSRI-A) เหมาะกับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้น้อยถึงปานกลาง มีประมาณการสัดส่วนการลงทุนในตราสารหนี้ 65% ตราสารทุน 25% ตราสารทางเลือก 10%
กองทุนเปิดกรงไทยสุขใจ (KTSUK-A) เหมาะกับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้น้อย มีประมาณการสัดส่วนการลงทุนตราสารหนี้ 80% ตราสารทุน 10% และตราสารทางเลือก 10%
ทั้งนี้ มุ่งเน้นการลงทุนแบบการจัดสรรเงินลงทุน (Asset Allocation) ในหลายสินทรัพย์ทั่วโลก ผ่าน Fund of Funds ภายใต้บริษัทจัดการกองทุน เน้นการกระจายน้ำหนักการลงทุนให้เหมาะสมกับวัฎจักรเศรษฐกิจระยะยาวในแต่ละช่วงเวลาและความเสี่ยงของพอร์ตโฟลิโอ (Strategic Asset Allocation) และจะลงทุนในกองทุนใดกองทุนหนึ่งไม่เกิน 79% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน โดยผู้จัดการกองทุนจะมีการบริหารพอร์ตให้สอดคล้องกับสภาวะของตลาดที่มีความผันผวน มีการติดตามและกระจายความเสี่ยงที่เหมาะสมให้กับผู้ถือหน่วยอย่างต่อเนื่อง ผู้จัดการกองทุนยังสามารถเพิ่มหรือลดน้ำหนักสินทรัพย์ได้ตามความเหมาะสมให้สอดคล้องกับสภาวะของตลาดที่อาจจะมีความผันผวนได้ในระยะสั้น (Dynamic Tactical Asset Allocation) เพื่อแสวงหาโอกาสในการสร้างผลประกอบการสูงกว่าดัชนีชี้วัด (Active Management) ให้ได้ผลตอบแทนอยู่ที่ 3% ต่อปี 5% ต่อปี 7% ต่อปี และ 9% ต่อปี ตามลำดับ