ตลาดหลักทรัพย์ฯ รับหุ้น OR เข้าเทรด 11 ก.พ.นี้

HoonSmart.com>> ตลาดหลักทรัพย์รับหุ้น OR เริ่มซื้อขาย 11 ก.พ.64 หมวดธุรกิจพลังงานและสาธารณูปโภค ราคา IPO หุ้นละ 18 บาท ด้านบล.เอเซีย พลัส ประเมินราคาเหมาะสม 24 บาท

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) รับหลักทรัพย์ของหุ้นสามัญบริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก (OR) เป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนและเริ่มทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์วันที่ 11 ก.พ. 2564 ในกลุ่มอุตสาหกรรมทรัพยากร หมวดธุรกิจพลังงานและสาธารณูปโภค

OR เสนอขายหุ้น IPO จำนวน 2,610 ล้านหุ้น จัดสรรให้แก่ประชาชนทั่วไป จำนวน 2,310,000,166 หุ้น ผู้ถือหุ้นเดิมของ บริษัท ปตท. (PTT) (Pre-Emptive right) จำนวน 299,999,834 หุ้น ในราคา IPO หุ้นละ 18.00 บาท จองซื้อเมื่อวันที่ 24 ม.ค. 2564 ถึงวันที่ 05 ก.พ. 2564

ทั้งนี้ บริษัทจัดสรรหุ้นเพิ่มทุน 2,610 ล้านหุ้น และจัดสรรหุ้นส่วนเกิน (Over-Allotment) 390 ล้านหุ้น รวม 3,000 ล้านหุ้นและบริษัทมีการจัดสรรหุ้นส่วนเกินซึ่งยืมจากบริษัท ปตท. (PTT) จำนวน 390 ล้านหุ้น

บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก ประกอบธุรกิจจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมและธุรกิจค้าปลีกสินค้าและบริการอื่นๆ (Non-Oil) ทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งรวมถึงการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมและผลิตภัณฑ์อื่นๆ ในตลาดค้าปลีกและตลาดพาณิชย์ ธุรกิจกาแฟ ร้านอาหารและเครื่องดื่มอื่นๆ ร้านสะดวกซื้อและการบริหารจัดการพื้นที่

ด้านบริษัทหลักทรัพย์เอเซีย พลัส ประเมินราคาเหมาะสมหุ้น OR ณ ปี 2564 ด้วยวิธี DCF เท่ากับ 24.0 บาท/หุ้น (ภายใต้ WACC ที่ 7.8%) ซึ่งคิดเป็น PER ที่ 24.3 เท่า (EPS ราว 1.0 เท่า) ซึ่งถือว่าใกล้เคียงค่าเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักของ PER ในหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมพลังงาน ต่อ PER ในหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมค้าปลีกในสัดส่วน 70:30 ซึ่งจะได้ค่า PER เท่ากับ 25.7 เท่า ขณะที่คาดจะจ่ายปันผลสูงถึง 0.8 บาท/หุ้น หรือคิดเป็น Dividend yield ที่ราว 4.2% ภายใต้สมมติฐาน ราคาหุ้นละ 18.0 บาท

สำหรับปี 2564 ฝ่ายวิจัยคาด OR จะมีกำไรจากการดำเนินงานปกติ เติบโต 41.2%yoy มาอยู่ที่ 1.2 หมื่นล้านบาท (ฟื้นตัวประเด็น COVID-19 ที่กดดันในปีที่ผ่านมา) หนุนจากการฟื้นตัวทุกกลุ่มธุรกิจ

ขณะที่ภาพระยะยาวตั้งแต่ปี 2564-2567 คาด OR จะมีกำไรเติบโตเฉลี่ย CAGR ที่ 16.7% ต่อปี โดยใช้ปี 2563 เป็นปีฐาน จากการคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจะกลับมาฟื้นตัว และการเดินทางทั้งในประเทศและต่างประเทศจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากมาตรการผ่อนคลายล็อคดาวน์ ซึ่งฝ่ายวิจัยกำหนดสมมติฐานให้มีการเปิดสถานีบริการน้ำมัน 108 แห่งต่อปี และเปิดสาขาคาเฟ่อเมซอน เพิ่ม 418 สาขาต่อปี ตามเป้าหมายหลักของ OR ในขณะที่กลุ่มธุกิจต่างประทศ มีการเปิดสถานีบริการน้ำมันปีละ 35-36 แห่ง และขยายสาขาคาเฟ่อเมซอนปีละ 35-36 สาขา

ปี 2565-2567 คาด OR จะมีกำไรเติบโต 16.7%yoy 5.8%yoy และ 6.4%yoy มาอยู่ที่ 1.4 หมื่นล้านบาท 1.5 หมื่นล้านบาท และ 1.6 หมื่นล้านบาท ตามลำดับ

อ่านข่าว
https:/
/hoonsmart.com/archives/168821