IRPC กำไรดี 1,608 ลบ.Q4/63 จ่ายเงินปันผล 0.06 บาท/หุ้น

HoonSmart.com>>”ไออาร์พีซี” ฟื้นตัวเร็ว ปี 63 ขาดทุนสุทธิ 6,151 ล้านบาท เฉพาะไตรมาส 4 โกยกำไร 1,608 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3% จากไตรมาส 3 มีรายได้จากการขาย 40,661 ล้านบาท โต 8% บอร์ดอนุมัติจ่ายเงินปันผลหุ้นละ 0.06 บาท อัตราผลตอบแทนประมาณ 1.61% เสนอที่ประชุมผู้ถือหุ้น จัดหาเงินกู้ตามแผน 5 ปี วงเงินไม่เกิน 5 หมื่นล้านบาท

บริษัท ไออาร์พีซี (IRPC) เปิดเผยผลการดำเนินงานประจำปี 2563 ขาดทุนสุทธิ 6,151.70 ล้านบาท เทียบกับปีก่อนที่มีขาดทุนสุทธิ 1,174.04 ล้านบาท เฉพาะไตรมาสที่ 4/2563 มีกำไรสุทธิ 1,608 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3% จากไตรมาสก่อนหน้ามีกำไร 1,556 ล้านบาท และพุ่งขึ้น 413% จากไตรมาสที่ 4/2562 ขาดทุนสุทธิ 513 ล้านบาท

บริษัทฯ มีรายได้จากการขายสุทธิ 152,319 ล้านบาทในปี 2563 ลดลง 30% จากราคาขายลดลง 24% ตามราคาน้ำมันดิบ และปริมาณขายลดลง 6% โดยโรงกลั่นน้ำมันมีอัตราการกลั่นอยู่ที่ 192,000 บาร์เรลต่อวัน ลดลง 3% เนื่องจากบริษัทได้ปรับแผนการผลิตเพื่อลดผลกระทบจากความต้องการผลิตภัณฑ์ที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่อัตราการใช้กำลังการผลิตยังคงอยู่ในระดับสูง

บริษัทมีกำไรขั้นต้นจากการผลิตตามราคาตลาด (Market GIM) อยู่ที่ 19,414 ล้านบาท (8.78 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล) ลดลง 1% สาเหตุส่วนใหญ่มาจากความต้องการสินค้าและส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมลดลงอย่างมากจากสถานการณ์โควิด ขณะที่ส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีที่ได้รับผลกระทบจากสงครามการค้าในปี 2562 ดีขึ้นจากความต้องการที่เพิ่มขึ้นของผลิตภัณฑ์กลุ่มเวชภัณฑ์ กลุ่มบรรจุภัณฑ์รวมถึงกลุ่มเครื่องใช้ในบ้าน เนื่องจากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป

ขณะเดียวกันสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบในปี 2563 ลดลงอย่างมาก ราคาน้ำมันดิบดูไบลดลงต่ำสุดอยู่ที่ 13.55 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลในเดือนเม.ย. และเริ่มฟื้นตัวในครึ่งปีหลัง ส่งผลให้บริษัทมีขาดทุนจากสต๊อกน้ำมันสุทธิรวม 1,589 ล้านบาท หรือ 0.72 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เมื่อเทียบกับปีก่อนที่มีกำไรจากสต๊อกน้ำมันสุทธิ 614 ล้านบาท ส่งผลให้มีกำไรขั้นต้นจากการผลิตทางบัญชี (Accounting GIM) จำนวน 17,825 ล้านบาทหรือ 8.06 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ลดลง 2,344 ล้านบาทหรือ 12% จากปีก่อน ส่งผลให้มีกำไรก่อนดอกเบี้ย ภาษี และค่าเสื่อมราคา(EBITDA) จำนวน 4,696 ล้านบาท ลดลง 21%

บริษัทบันทึกค่าเสื่อมราคา 8,952 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5% ส่วนใหญ่เพิ่มขึ้นจากโครงการปรับปรุงและขยายงานที่แล้วเสร็จ และขาดทุนจากการทำสัญญาอนุพันธ์ทางการเงิน 419 ล้านบาท เทียบกับปีก่อนมีกำไร 969 ล้านบาท ขณะที่ต้นทุนทางการเงินสุทธิมีจำนวน 1,847 ล้านบาท ลดลง 3% จากอัตราดอกเบี้ยที่ลดลง นอกจากนี้บริษัทบันทึกขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนจากเงินกู้สกุลเงินเหรียญสหรัฐ 2 ล้านบาท เทียบกับปีก่อนมีกำไร 458 ล้านบาท และมีการขาดทุนจากการบริหารความเสี่ยงน้ำมันที่ยังไม่เกิดขึ้นจริง 961 ล้านบาท ซึ่งบันทึกตามมาตรฐานการรายงานทางการเงิน ฉบับที่ 9 เรื่องเครื่องมือทางการเงิน(TFR9)ที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2563

บริษัทบันทึกขาดทุนจากการด้อยค่าและจำหน่ายทรัพย์สิน 535 ล้านบาท ส่วนใหญ่เกิดจากการด้อยค่างานระหว่างก่อสร้างจากการชะลอโครการ Maximum Aromatics (Mars) เมื่อเทียบกับปีก่อนมีกำไร 770 ล้านบาท จากการกลับรายการด้อยค่าที่ดินและเงินลงทุน และมีกำไรจากการขายที่ดิน อ.บ้านค่าย จ.ระยอง บริษัทมีกำไรจากการลงทุน 339 ล้านบาท ลดลง 8% และมีเครดิตภาษีเงินได้ 1,554 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 775 ล้านบาท ส่วนใหญ่จากผลการดำเนินงานที่ลดลง

ส่วนไตรมาสที่ 4 บริษัทมีรายได้จากการขายสุทธิ 40,661 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8% เทียบกับไตรมาสที่ 3 จากราคาขายเพิ่มขึ้น 7% ตามราคาน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้น และปริมาณขายเพิ่มขึ้น 1% โดยโรงกลั่นน้ำมันมีอัตราการกลั่นอยู่ที่ 197,000 บาร์เรลต่อวัน เพิ่มขึ้น 1% บริษัทมี Market GIM อยู่ที่ 6,144 ล้านบาท (11.01 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล) เพิ่มขึ้น 24% และบริษัทยังมีกำไรจากสต๊อกน้ำมันสุทธิรวม 1,363 ล้านบาทหรือ 2.44 เหรียญสหรัฐ ส่งผลให้มี Accounting GIM จำนวน 7,507 ล้านบาทหรือ 13.45 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ลดลง 14% ขณะที่มีค่าใช้จ่ายดำเนินงานจำนวน 3,943 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26% ส่วนใหญ่เพิ่มขึ้นจากการบันทึกค่าใช้จ่ายพนักงานที่เข้าร่วมโครงการจูงใจมาก หรือโครงการ NOAH ส่งผลให้บริษัทมี EBITDA จำนวน 3,781 ล้านบาทลดลง 35%  แต่เพิ่มขึ้น 3,238 ล้านบาทหากเทียบกับไตรมาสที่ 4/2562 ที่มีขาดทุนสุทธิ 513 ล้านบาท

ด้านคณะกรรมการบริษัทฯมีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลหุ้นละ 0.06 บาท จำนวนเงินประมาณ 1,226 ล้านบาท ให้ผู้ถือหุ้นที่มีชื่อในทะเบียนวันที่ 24 ก.พ. และขึ้นเครื่องหมาย XD วันทื่ 22 ก.พ. 2564 กำหนดจ่ายเงินวันที่ 20 เม.ย.2564 ทั้งนี้เงินปันผลคิดเป็นอัตราผลตอบแทน 1.61% เทียบกับราคาหุ้นปิดที่ระดับ 3.72 บาท เมื่อวันที่ 9 ก.พ.
2564

บริษัทกำหนดจัดการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2564 ในวันที่ 31 มี.ค. 2564 เพื่อพิจารณาการจ่ายเงินปันผล และพิจารณาอนุมัติแผนการจัดหาเงินกู้ 5 ปี (2564-2568X) เป็นสกุลเงินบาทหรือสกุลเงินเหรียญสหรัฐ ในวงเงินเทียบเท่าไม่เกิน 50,000 ล้านบาท เพื่อใช้ในการลงทุนและหรือทดแทนเงินกู้เดิมที่ครบกำหนดชำระ หรือเป็นเงินทุนหมุนเวียน