PTTEP จุดพลุ กลุ่มปตท.สดใส ไตรมาส 1ขายดี ขยับเป้าทั้งปีนี้

HoonSmart.com>> “ปตท.สผ.” คุยไตรมาส 1/2564 ปริมาณขายเพิ่มขึ้น 12% ถือโอกาสปรับเป้าทั้งปีแตะ 3.98 แสนบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน มองราคาน้ำมันดิบเฉลี่ยทั้งปี 50-55 ดอลลาร์สหรัฐ ด้านหุ้นครอบครัวปตท.นำตลาด ดัชนียืนแกร่ง 1,518 จุด ต่างชาติซื้อต่อ 2,090 ล้านบาท สวนทางรายย่อยขาย 2,083 ล้านบาท นักวิเคราะห์คาดเงินทุนไหลเข้าต่อเนื่อง เก็งกำไรต้องระวัง มูลค่าเริ่มตึงตัว บล.เอเซียพลัส-บล.โนมูระพัฒนสินเชียร์ PTT ส่วนบล.บัวหลวงเลือกอสังหาริมทรัพย์ราคายังขึ้นน้อย แถมปันผลสูงกว่าแบงก์

น.ส.อรชร อุยยามะพันธุ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการเงิน บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) เปิดเผยว่า ในไตรมาส 1/64 คาดว่าปริมาณขายเฉลี่ยต่อวันเพิ่มขึ้น 12% อยู่ที่ 365,000 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน จากทั้งปีก่อนอยู่ที่ 354,052 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน เนื่องจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวได้ดีขึ้นจากช่วงต้นปี ตามความต้องการที่ฟื้นตัวตามเศรษฐกิจทั่วโลก

บริษัทได้ปรับเป้าปริมาณขายเฉลี่ยปี 2564 เพิ่มขึ้นเป็น 398,000 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน จากเดิมที่ตั้งไว้ 375,000 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน  หลังจากรับรู้โครงการใหม่ในปีนี้ การลงทุนในแปลง 61 ประเทศโอมาน สัดส่วน 20% การผลิตก๊าซธรรมชาติรวมถึง 1,500 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน (MMSCFD) คาดว่าจะช่วยให้บริษัทมีกระแสเงินสดเพิ่มขึ้นปีละประมาณ 200-300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ส่วนแนวโน้มราคาน้ำมันดิบเฉลี่ยทั้งปีอยู่ที่ 50-55 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล คาดว่าจะช่วยลดต้นทุนต่อหน่วยลงเหลือประมาณ 28-29 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบ จากปีก่อนหน้าอยู่ที่ 30.5 ดอลลาร์สหรัฐ และอัตรากำไรก่อนดอกเบี้ย ภาษีและค่าเสื่อมราคา (EBITDA Margin) คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 70% จากปีก่อนที่ 68%

สำหรับงบลงทุน 5 ปี (2564-2568) บริษัทตั้งไว้ประมาณ 23,637 ล้านเหรียญสหรัฐฯ มาจากกระแสเงินสดทั้งหมด ปัจจุบันมีประมาณ 3,804 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยลงทุนในโครงการเดิม ซึ่งในช่วงกลางปีนี้จะประเมินสถานการณ์อีกครั้ง ถ้าเงินลงทุนไม่พอตามแผน อาจจะมีการเสนอขายหุ้นกู้ และยังมีช่องทางในการระดมทุนเพิ่มอีก จากปัจจุบันที่มีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนในระดับต่ำที่ 0.33 เท่า

นอกจากนี้ยังมีแผนในการมองหาแหล่งสำรวจ และขุดเจาะเพิ่มเติม ในรูปแบบการเข้าซื้อกิจการที่เหมาะสมตามกลยุทธ์ที่ตั้งบนทำเลเอเชียตะวันออกเฉียงใต้  และตะวันออกกลาง ปัจจุบันมีการศึกษาอยู่ แต่ยังไม่ได้ข้อสรุป

น.ส.อรชร กล่าวเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเกิดเหตุการณ์ทางการเมืองในเมียนมาว่า  ไม่ได้ส่งผลต่อโครงการของบริษัท ซึ่งคงดำเนินการตามแผนปกติ ปัจจุบันได้โครงการ Gas to Power รับอนุมัติจากรัฐบาลเมียนมาแล้ว อยู่ในขั้นตอนการรอทำสัญญาซื้อขายก๊าซ และสัญญาณซื้อขายไฟฟ้า

ด้านราคาก๊าซในไตรมาส 1/64 ปรับลดลงมา คาดอยู่ในกรอบ 6-8 ดอลลาร์สหรัฐต่อล้านบีทียู จากปลายปีก่อนที่ปรับสูงขึ้นแตะ 13-14 ดอลลาร์สหรัฐต่อล้านบีทียู เนื่องจากก๊าซขาดแคลนบางพื้นที่ และสภาพอากาศที่หนาว ทำให้ปีนี้คาดว่าราคาค่อนข้างผันผวน แต่ก็ยังมีปัจจัยบวกจากความต้องการที่อาจจะเพิ่มขึ้นจากนโยบายพลังงานสะอาดของนายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสำรัฐ ทำให้โรงไฟฟ้าอาจจะใช้ก๊าซในการผลิตมากขึ้น

วันที่ 9 ก.พ.ตลาดหุ้นเปิดตลาดสวยงามตามต่างประเทศ ดัชนีขึ้นไปสูงสุดที่ระดับ 1,529.49 จุด แต่ยืนไม่อยู่ เจอแรงขายทำกำไร กดดัชนีลงไปติดลบ ต่ำสุด 1,516.50 จุด ก่อนปิดที่ 1,518.27 จุด บวก 1.84 จุด หรือ 0.12% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 92,889.81 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม นักลงทุนต่างชาติยังคงซื้อสุทธิต่อเนื่อง 2,090 ล้านบาทแลกหมัดกับรายย่อยขาย 2,083 ล้านบาท

นักวิเคราะห์คาดว่าตัวเลขการติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศลดลง และมีความชัดเจนในการนำเข้าวัคซีนในปลายเดือนก.พ. เปิดทางให้เงินทุนต่างประเทศไหลเข้ามา แม้ว่ามีแรงขายทำกำไรกลุ่มที่ราคาปรับตัวขึ้นมามาก เช่นธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ หันไปสนใจหุ้นพลังงาน ที่ราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้น โดยบล. ทิสโก้ คาดขึ้นทดสอบ1,530 และจุดสูงสุดเดิม 1,550-1,560 จุดการเก็งกำไรช่วงนี้เหมาะสำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูง พอร์ตลงทุนถือต่อไป เน้นหาจังหวะซื้อช่วงอ่อนตัว-ไม่ไล่ราคา

บล.เอเซียพลัสคาดเงินทุนไหลเข้าแนะนำซื้อ CPN , PTT,TISCO บล.โนมูระ พัฒนสินแนะนำ PTT-ADVANC-BCPG มูลค่าตึงตัว เน้นตั้งรับแบ่งไม้ซื้อ หุ้นใหญ่ ขณะที่บล.บัวหลวง แนะนำหุ้นอสังหาริมทรัพย์ เนื่องจากราคานิ่งผลตอบแทนปันผลเฉลี่ยสูงกว่าแบงก์

อ่านข่าว

PTTEP เพิ่มเป้าขายปีนี้  3.98 แสนบาร์เรลต่อวัน ต้นทุนลด อัตรากำไรดีขึ้น