W เปิดแผน 5 ปี “โดมิโน่ พิซซ่า” ปั๊มรายได้ทะลุ 4.6 พันล้าน

HoonSmart.com>>วาว แฟคเตอร์  เปิดแผน 5 ปี  ”โดมิน่า พิซซ่า” ปั๊มรายได้ทะลุ 4.6 พันล้านบาท  EBITDA แตะ 856.54 ล้านบาท

บริษัท วาว แฟคเตอร์  (W) เปิดโมเดลธุรกิจในช่วง 5 ปีข้างหน้า ภายใต้ธุรกิจอาหาร โดยมี “Domino Pizza” เป็นสินค้าเรือธง ผลักดันธุรกิจเติบโตก้าวกระโดด หลังบริษัทฯ ปิดดีลทุ่มเงินลงทุนกว่า 430 ล้านบาท ซื้อกิจการทั้งหมดของ “Domino Pizza” ในประเทศไทย ในช่วงปลายปีที่ผ่านมา

และในปี 2564 นี้ เป็นปีแรกที่ W รับรู้รายได้เต็มปีจาก “Domino Pizza” ในไทย โดยในปี 2563 มีสาขาในกรุงเทพฯ จำนวน 25 แห่ง และพัทยา 1 แห่ง

ขณะที่แผนการดำเนินงานปี 2564-2567 “Domino Pizza” เพิ่มเป็น 58 สาขา 74 สาขา 111 สาขา และ 180 สาขา ตามลำดับ

นอกเหนือจาก “Domino Pizza” ที่เป็นขุมรายได้หลักของบริษัทฯ W แล้ว ยังมีร้านอาหารและร้านขนม 6 แบรนด์ดัง ประกอบด้วย คือ 1. Bake Cheese Tart ชีสทาร์ตสุดฮิตจากเกาะฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น 2. Zaku Zaku ชูครีม Croquant ต้นกำเนิดจากฮอกไกโด 3. RAPL พายแอปเปิลครีมคัสตาร์ดนำเข้าจากฮอกไกโด

4  Crépes & Co. ร้านเครปสไตล์ฝรั่งเศสแห่งแรกของกรุงเทพมหานคร 5. Kagonoya ร้านบุฟเฟต์ชาบูระดับพรีเมียมชื่อดัง จากเมืองโอซากา ที่เปิดให้บริการในไทยมากว่า 8 ปี และ 6. Le Boeuf ร้านอาหารแนว Fine Dining ภายใต้คอนเซ็ปต์ Steak & Fries Bistro Le Boeuf เป็นร้านที่เสิร์ฟเมนูหลักเพียงเมนูเดียวคือสเต็ก ซึ่งมีความพิเศษอยู่ที่ซอส สูตรลับที่สืบทอดมารุ่นต่อรุ่น

ปี 2563 ที่ผ่านมา หลัง W ปรับเข้าสู่โหมดธุรกิจอาหาร ทีมผู้บริการเข้าไปดูแลเรื่องโครงสร้างการเงิน ปรับลดต้นทุนการดำเนินธุรกิจ และที่สำคัญการปรับกลยุทธ์ธุรกิจ ให้สอดคล้องกับพฤติกรรมผู้บริโภคยุค New Normal หลังเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ทำให้ยอดขายในส่วนของธุรกิจอาหาร ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ จากการปรับกลยุทธ์การตลาด และการส่งสินค้าในรูปแบบ Delivery ซึ่งไม่เฉพาะ “Domino Pizza” แต่ Kagonoya ร้านบุฟเฟต์ชาบู ยังส่งสินค้าแบบ Delivery

ทำให้ยอดขายในช่วงที่ผ่านมา เติบโตอย่างก้าวกระโดด ! และเริ่มเห็นสัญญาณเป็นบวกของตัวเลข EBITDA

มองไปถึงแนวโน้มรายได้ของ W ในช่วง 5 ปีข้างหน้า (2564-2568) ในปี 2564 คาดว่ารายได้รวมอยู่ที่ 1,079 ล้านบาท สร้างสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ก่อนขยับเป็น 1,800 ล้านบาท 2,400 ล้านบาท 3,600 ล้านบาท และ 4,600 ล้านบาท ตามลำดับ

ขณะที่ EBITDA ในช่วง 5 ปีข้างหน้า (2564-2568) อยู่ที่ 74.47 ล้านบาท 229.33 ล้านบาท 367.90 ล้านบาท 626.40 ล้านบาท 856.54 ล้านบาท ตามลำดับ

ทั้งนี้ หากคำนวณ P/E ของ W อ้างอิงค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมอาหารอยู่ที่ประมาณ 30 เท่า Expected Share Price ในปี 2566 จะอยู่ที่ 0.54 บาท/หุ้น ก่อนขยับเป็น 0.96 บาท/หุ้น ในปี 2567 และเพิ่มเป็น 1.43 บาท/หุ้น ในปี 2568 ตามลำดับ

โบรกฯ แนะเก็งกำไร W-W5 กรอบ 0.15-0.23 บาท/หุ้น

บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ ประเมินมูลค่าที่เหมาะสม W-W5 ที่ 0.19 บาท (BSM) อิงราคาหุ้นแม่ที่ 0.29 บาท โดยมีความผันผวนของหุ้นแม่ที่ 87%  เนื่องด้วยช่วงราคาการซื้อขายของ W-W5 ที่ค่อนข้างแคบ ทำให้การขยับตัวของหุ้นคิดเป็นความผันผวนที่สูง ขณะที่การดำเนินงานและผลประกอบการของบริษัท ที่มีการซื้อและขายเงินลงทุนอย่างต่อเนื่องทำให้มองว่าเหมาะสำหรับการเก็งกำไรเป็นรอบ ๆ

ปัจจุบัน W  อยู่ระหว่างการติดเกณฑ์ Cash Balance จนถึงวันที่ 9 ก.พ. และปัจจุบันในตลาดมี W-W3 อยู่ แม้จะมี Gearing และอัตราการแปลงสภาพที่สูงกว่า แต่ด้วยสถานะที่ Deep-Out-of-The-Money และหมดอายุในเดือน มิ.ย.  มองในเชิงเปรียบเทียบ W-W5 มีความน่าสนใจกว่า

นอกจากนี้ ยังให้กรอบมูลค่า W-W5 ไว้ที่ 0.15-0.23 บาท เมื่อราคาหุ้น W เคลื่อนไหวในกรอบ 0.24-0.34 บาท โดยมี Volatility 85% per year

บริษัทหลักทรัพย์ ดีบีเอส วิคเคอร์ส  ประเมิน W-W5 ตาม Black-Scholes แบบ Conservative จะได้มูลค่าในกรอบ 0.230-0.135 บาท เมื่อราคาหุ้น W เคลื่อนไหวในกรอบ 0.36-0.22 บาท โดยมี Dividend yield 0.00%, Dilution effect 28.89%, Risk free rate 4.00, Volatility 136%

ส่วนมูลค่าเหมาะสมตาม Black-Scholes แบบ Aggressive จะได้มูลค่าในกรอบ 0.323-0.190 บาท เมื่อราคาหุ้น W เคลื่อนไหวในกรอบ 0.36-0.22 บาท โดยมี Risk free rate 4.00, Volatility 136%

.