เอเซีย พลัสชี้เป้าหุ้นน้ำมันราคา Laggard มองแรงขายปรับพอร์ตซื้อ OR แผ่ว

HoonSmart.com>> บล.เอเซีย พลัส ชี้ราคาน้ำมันดิบขึ้นต่อเนื่องหนุนหุ้นกลุ่มน้ำมัน PTTEP-PTT มองราคายัง Laggard ด้านแรงขายปรับพอร์ตซื้อหุ้น OR แผ่ว เหลือกองทุน Passive Fund ประเมินเม็ดเงินเพียง 1,400 ล้านบาทรอปรับพอร์ตรับ OR เข้า SET50-SET100

บริษัทหลักทรัพย์เอเซีย พลัส (ASPS) ประเมินราคาน้ำมันดิบที่ปรับเพิ่มขึ้นแรงถือเป็น Sentiment บวกต่อหุ้นในกลุ่มน้ำมันทั้ง PTTEP ราคาเหมาะสม 118.00 บาท และ PTT ราคาเหมาะสม 48.50 บาท ซึ่งสวนทางกับทิศทางราคาหุ้นซึ่ง Laggard ราคาน้ำมันดิบค่อนข้างมาก

ส่วนประเด็นความกังวลแรงขายปรับพอร์ตในหุ้นกลุ่มพลังงาน เพื่อเตรียมเงินรอซื้อหุ้น OR นั้น ASPS ประเมินว่าได้ตอบรับในราคาหุ้นระดับหนึ่งแล้ว เนื่องจากวันที่จองซื้อของนักลงทุนสถาบัน Active Fund อยู่ระหว่าง 3-5 ก.พ. 2564 ซึ่งต้องเตรียมเงินก่อนหน้า 2 วัน ดังนั้นวันสุดท้ายที่ซื้อคือ 5 ก.พ. 2564 ต้องเตรียมเงินเสร็จตั้งแต่วันที่ 3 ก.พ. 2564 จึงเหลือเพียงแรงกดดันจาก Passive Fund ที่จะปรับพอร์ตหลัง OR ถูกคัดเข้าดัชนี SET50-100 Fast Track โดยฝ่ายวิจัยฯ คาดจะมีเม็ดเงินเพียง 1,400 ล้านบาท เท่านั้น

สำหรับราคาน้ำมันดิบโลกวานนี้ยังปรับขึ้นแรงต่อเป็นวันที่ 3 โดยราคาน้ำมันดิบ Brent เพิ่มขึ้นอีก 1.7%, ตั้งแต่ต้นสัปดาห์ (wtd) เพิ่มขึ้น 4.6% และตั้งแต่ต้นปี (ytd) ขึ้น 12.9% ที่ระดับ 58.46 เหรียญฯ เนื่องจากมีปัจจัยหนุนครบทั้งฝั่ง Supply และ Demand ดังนี้

ฝั่ง Supply สถาบันสารสนเทศด้านพลังงานของสหรัฐ (EIA) รายงานสต็อคน้ำมันดิบลดลง 9.94 แสนบาร์เรล สวนทางกับที่ตลาดคาดเพิ่มขึ้น 4.46 แสนบาร์เรล และราคาน้ำมันดิบยังคงได้แรงหนุนจากการตัดลดกำลังการผลิตของ OPEC+ ที่ส่วนใหญ่เป็นไปตามข้อตกลงไว้ โดยเฉพาะซาอุดิอาระเบีย (ผู้ผลิตน้ำมันอันดับ 1 ใน OPEC) ปรับลดกำลังการผลิต 1 ล้านบาร์เรล/วัน และให้คำมั่นว่าจะทำต่อไปใน เดือน ก.พ. – มี.ค. 2564 รวมถึงรายงานล่าสุดของ OPEC+ ที่คาดการณ์ว่าสต็อกน้ำมันดิบโลกจะลดลงสู่ระดับต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในรอบ 5 ปีภายในเดือน มิ.ย. 2564

ฝั่ง Demand ได้แรงหนุนจากความคาดหวังจากเศรษฐกิจโลก และสหรัฐมีแนวโน้มฟื้นตัว ไม่ว่าจะเป็นจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ที่เริ่มลดลงหลังการฉีดวัคซีน, ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจโลกส่งสัญญาณฟื้นตัว ล่าสุด การจ้างงานนอกภาคเกษตร (ADP) ของสหรัฐ เดือน ม.ค. 2564 เพิ่มขึ้น 1.74 แสนตำแหน่ง สูงกว่าตลาดคาด 4.9 หมื่นตำแหน่ง รวมไปถึงความคาดหวังมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐ วงเงิน 1.9 ล้านล้านเหรียญที่จะเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรในสัปดาห์นี้