บล.บัวหลวง ตั้งเป้าเบอร์ 1 บล็อกเทรด

บัวหลวง ตั้งเป้าผู้นำบล็อกเทรด มาร์เก็ตแชร์ 15% เหตุดอกเบี้ย และค่าคอมมิชชั่น ต่ำกว่ามาร์จิ้น ชี้หุ้นรายตัวผันผวนจากการบังคับขาย

นายชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ รองกรรมการผู้จัดการ สายงานค้าหลักทรัพย์บุคคล บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง เปิดเผยว่า บริษัท ฯ ตั้งเป้าเป็นผู้นำบล็อกเทรด ภายสิ้นปีนี้หรือมีส่วนแบ่งตลาด 15% จากปัจจุบันมีส่วนแบ่งตลาด 12% ของมูลค่าซื้อขายต่อวันประมาณ 2,000 ล้านบาท เนื่องจาก ลูกค้านิยมหันมาใช้บล็อกเทรดมากขึ้นจากการใช้มาร์จิ้น ซึ่ง ค่านายหน้าซื้อขาย (คอมมิชชั่น ) และดอกเบี้ย ต่ำกว่ามาร์จิ้น โดยค่าคอมม์บล็อกเทรดอยู่ที่ 0.1 % ต่ำกว่าค่าคอมม์ปกติ ที่ 0.25%

สำหรับบล.บัวหลวง ปัจจุบัน มีวงเงินปล่อยสินเชื่อซื้อหลักทรัพย์ 5,000 ล้านบาท ช่วงที่พีคที่สุดปล่อยวงเงินให้บล็อกเทรด 2,000 ล้านบาท ปัจจุบันเหลือเพียง 1,300 ล้านบาท ส่วนการปล่อยมาร์จิ้นไม่ถึงต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท

นายชัยพร กล่าวถึง ภาวะตลาดและหุ้นรายตัวที่ผันผวนรุนแรง ในหุ้นหลายตัว คาดว่าเกิดจากการบังคับขายนักลงทุนที่เล่นบล็อกเทรด และใช้มาร์จิ้นซึ่งวิธีการของทั้ง 2 อย่างเหมือนกันคือ การคุมความเสี่ยงของลูกค้าและการลดความเสี่ยงของโบรกเกอร์ เมื่อราคาหุ้นปรับตัวถึงระดับหนึ่ง ที่ลูกค้าต้องเติมเงิน เพื่อไม่ใช้ลูกค้าต้องสู้กับราคาหุ้นกระทั่วเงินหมด

“หุ้นบางตัวที่ราคาสวิงหนัก บัวหลวงไม่ได้ปล่อยบล็อกเทรด แต่ยอมรับว่า ภาวะตลาดหุ้นที่ผันผวน โบรกเกอร์หลายแห่งงดปล่อยกู้ บล็อกเทรด และบางส่วนเกิดจากระบบซื้อขายที่มีความถี่การเทรดรายวินาที ทำนักลงทุนระยะยาวที่ต้องการลงทุนจริง ๆ ขาดความมั่นใจ รวมทั้งการบังคับขายด้วย“ นายชัยพร กล่าว

สำหรับโปรแกรมซื้อขายของ บล.บัวหลวง ปัจจุบันมี 7 โปรแกรม ซึ่งโปรแกรมที่ได้รับความสนใจสูงสุดคือ โปรแกรมสะสมหุ้นรายเดือน (Saving Account Program )

รองกรรมการผู้จัดการ กล่าวถึงภาวะตลาดหุ้นว่า ปัญหาภาษีการค้าสหรัฐ – จีน จะอยู่กับตลาดหุ้นถึงสิ้นปีนี้ เป้าหมายดัชนีสิ้นปี 1,760 จุด มองว่าการเติบโตกำไรของบริษัทจดทะเบียน 9.8 % จาก 2 ปีก่อน ซึ่งตลาดหุ้นไทยยังมีความน่าสนใจหลังจากหุ้นขนาดใหญ่ ราคาปรับตัวลงมา และระดับผลตอบแทนจากเงินปันผลที่สูง 3.5 – 6 % เทียบดอกเบี้ยธนาคาร โดยหุ้นกลุ่มน่าสนใจยังเป็นค้าปลีกที่มีช่องทางการตลาดขายผ่านออนไลน์ , โรงไฟฟ้า , หุ้นสินเชื่อรายย่อย , ท่องเที่ยวและโรงแรม กลุ่มเกษตรยังมีความเสี่ยงจากราคาพืชผล ขณะที่กลุ่มแบงก์ มองว่า มีโอกาสปรับเป้ากำไร และราคาหุ้นแบงก์มีโอกาสปรับขึ้นได้อีก 10%

****************
ติดตามข่าว หุ้นเด่น ประเด็นร้อน #HoonSmart #หุ้นสมาร์ท ได้ที่
Facebook : www.facebook.com/HoonSmart
Line : https://line.me/R/ti/p/%40hoonsmart.com