หุ้นปิดวูบเกือบ 30 จุด ต่างชาติขาย 2.2 พันลบ.

HoonSmart.com>> หุ้นปิด 1,468.51 จุด ร่วง 29.62 จุด ตามต่างประเทศ ปัจจัยลบหลังเฟดไม่มีเซอร์ไพร์ส-ธนาคากลางจีนกำหนดค่ากลางเงินหยวนอ่อนค่า ดุดสภาพคล่องออกจากระบบ ด้านพอร์ตโบรกฯ ขายนำ 2.8 พันล้านบาท สถาบันตาม 2.3 พันล้านบาท ต่างชาติทิ้ง 2.2 พันล้านบาท แนวโน้มพรุ่งนี้ คาดตลาดพักฐานต่อ แรงขายหุ้นขนาดใหญ่ต่อเนื่อง มองแนวรับ 1,450 จุด แนวต้าน 1,475-1,480 จุด แนะรอตลาดพักฐานก่อนค่อยลงทุน ติดตามการรายงานกำไร บจ. ตัวเลข GDP ของสหรัฐและไทย

ตลาดหลักทรัพย์วันที่ 28 ม.ค. 2564 ดัชนีปิดที่ระดับ 1,468.51 จุด -29.62 จุด หรือ -1.98% มูลค่าการซื้อขาย 92,614.64 ล้านบาท

บัญชีหลักทรัพย์ขายสุทธิ 2,804.01 ล้านบาท รองลงมานักลงทุนสถาบันในประเทศขายสุทธิ 2,317.00 ล้านบาท และนักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 2,249.38 ล้านบาท ด้านนักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิ 7,370.40 ล้านบาท

นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นปรับลดเกือบ 30 จุด ตามตลาดภูมิภาค โดยปัจจัยกดดันมาจากสหรัฐฯ เมื่อคืนมีแรงขาย Sell on Fact หลังการรายงานผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน และการประชุมเฟด ที่คงดอกเบี้ยและวงเงิน QE อีกทั้งนักลงทุนกังวลเรื่องการลดสภาพคล่องส่วนเกินออกจากระบบของธนาคารจีน โดยถอนเงินออกประมาณ 150,000 ล้านหยวน หลังธนาคารกลางจีนกำหนดค่ากลางเงินหยวนอ่อนค่าสวนคาดการณ์ของตลาดที่ประเมินว่าจะแข็งค่าขึ้น และมีการ Roll Over หนี้ที่ครบกำหนดเพียงบางส่วน

ส่วนแนวโน้มของ SET Index ในวันพรุ่งนี้ (29 ม.ค.64) คาดว่าตลาดจะปรับลดลงต่อ โดยหุ้นขนาดใหญ่ปรับฐาน ประเมินแนวรับที่ 1,450 ส่วนแนวต้านที่ 1,475-1,480 จุด ช่วงระยะสั้นภาพตลาดยังเป็นช่วงของการพักฐาน กลยุทธ์การลงทุนแนะนำรอตลาดพักฐานแล้วเสร็จก่อน ติดตามการรายงานผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน และการรายงานตัวเลข GDP ของไทยและสหรัฐในสัปดาห์หน้า

5 อันดับหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่

EA ปิดที่ 63.50 บาท -4.75 หรือ -6.96% มูลค่าการซื้อขาย 5,256.68 ล้านบาท
SCC ปิดที่ 381.00 บาท -11.00 หรือ -2.81% มูลค่าการซื้อขาย 3,042.12 ล้านบาท
PTT ปิดที่ 38.50 บาท -0.75 หรือ -1.91% มูลค่าการซื้อขาย 3,038.96 ล้านบาท
KBANK ปิดที่ 122.50 บาท -3.00 หรือ -2.39% มูลค่าการซื้อขาย 2,908.68 ล้านบาท
GPSC ปิดที่ 78.00 บาท -3.50 หรือ -4.29% มูลค่าการซื้อขาย 2,882.58 ล้านบาท