เปิด 3 เหตุผลหนุน ZIGA ซิ่งแรงสวนตลาด

HoonSmart.com>>เปิด 3 เหตุผล หนุนราคา ZIGA วิ่งแรงสวนตลาด ล้วนผลประกอบการเทิร์นอะราวน์ ดันราคาแรลลี่แล้วกว่า 200% แต่ยังต่ำกว่า IPO  ประเมินกำไรปี 64 ราว 154 ล้านบาทโตแรง 35% 

ราคาหุ้นบริษัท ซิก้า อินโนเวชั่น (ZIGA) ยังปรับตัวขึ้นอย่างร้อนแรงต่อเนื่อง  สวนทางภาวะตลาดที่ปรับตัวลง  หลังจากวิ่งทะลุ 4 บาท ขึ้นมาได้ แนวโน้มราคาหุ้นไม่มีสัญญาณจะพักตัว ซึ่งวันที่ 28 ม.ค. ราคาขึ้นไปทำนิวไฮของวัน 4.68 บาท เพิ่มขึ้น 0.24 บาท มูลค่าซื้อขายหนาแน่น สนับสนุนการขึ้นของราคา

นับย้อนหลังช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา หรือต้นเดือนส.ค. 2563 ราคาหุ้น ZIGA เคลื่อนไหว 1.40 บาท ถึงปัจจุบัน 28 ม.ค. 64 (ราคาสูงสุด 4.68 บาท)  รวมเวลา 6 เดือน ราคาหุ้นขึ้นมาแล้ว 3.28 บาท หรือ 234.28% แต่อย่างไรก็ตาม ระดับราคาดังกล่าว ยังต่ำกว่าราคา IPO ที่  5.90 บาท หรือ ราว 20%

ปัจจัยหนุนราคา มาจากผลประกอบการล้วน ๆ 

บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์กิมเอ็ง  มองว่า 1. แนวโน้มกำไรกลับมาเทิร์นอะราวน์ ซึ่งงวด 9 เดือน 2563 กำไร 79 ล้านบาท ฟื้นตัว 145.8 % เทียบช่วงเดียวกันปี 2562 และทั้งปี 2563 คาดกำไรทะลุ 100 ล้านบาท  เข้าใกล้กำไรสุทธิช่วง IPO ในปี  2560 ซึ่งมีกำไร 130 ล้านบาท  เป็นการออกจากจุดต่ำสุด 35 ล้านบาท ในปี 2562

2. อัตรากำไรขั้นต้น ขยายตัวจาก 9.9% ในปี 2562 สู่ 25.2 % ในไตรมาส 3/63  แม้ค่าเสื่อมราคาเพิ่มขึ้น จากกำลังการผลิตใหม่ +70% ระห่วางปี 2563  สะท้อนอุปสงค์ที่แข็งแรงของเหล็กนวัตกรรม Pre-zinc ที่กำลังทดแทนเหล็กดำในวงการก่อสร้าง

3.  โมเดล เปิด Outlet ในห้าง DCC เดินหน้าต่อ  ตั้งเป้าเพิ่มยอดขาย 10%

บนสมมติฐานรายได้เติบโต 15%  อัตรากำไรขั้นต้นอนุรักษ์นิยม 21.5% คาดการณ์กำไรสุทธิ 2564 จะอยู่ราว 152 ล้านบาท เติบโต 35.2%  กำไรต่อหุ้น 0.29 บาท  หากอิงกรอบ P/E ในอดีต 4 ปี 14.3- 18.6 เท่า กรอบราคาพื้นฐานปีนี้จะได้ 4.17 – 5.43 บาท

อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงของ ZIGA อยู่ที่ธุรกิจก่อสร้างที่ซบเซา , มีหุ้นทุนซื้อคืน 22.8 ล้านหุ้น  (4.4 % ของทุนจดทะเบียน ) ทุนเฉลี่ย 1.31 บาท ราคากระดานราว 4.50 บาท หุ้นซื้อคืนต้องดำเนินการ 2 เงื่อนไข ภายใน 6 เดือนหลังจบโครงการคือ ขายคืนในตลาด หรือ ลดทุน

” นักลงทุนกังวล กลัวการขายคืนในกระดาน ที่จะส่งผลกระทบกับราคาหุ้น แต่ถ้าบริษัทใช้วิธีการลดทุน ผู้ถือหุ้นจะได้ประโยชน์จาก กำไรต่อหุ้นที่เพิ่มขึ้น ผู้บริหารจะเลือกวิธีไหน ขึ้นกับการตัดสินใจและประโยชน์ของบริษัท และผู้ถือหุ้น เป็นหลัก ” นักวิเคราะห์กล่าว