BFIT กำไร 1,503 ลบ. ปี 63 โตแรง 85%

HoonSmart.com>> บง.ศรีสวัสดิ์ โชว์กำไรปี 63 จำนวน 1,503 ล้านบาท พุ่ง 85.36% จากงวดปีก่อน รายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่ม 567 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยลดลง

บริษัทเงินทุน ศรีสวัสดิ์ (BFIT) เปิดเผยผลการดำเนินงานงวดปี 2563 สิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค.2563 กำไรสุทธิ 1,503 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 2.73 บาท เพิ่มขึ้น 85.36% จากงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 810.86 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 1.98 บาท

บริษัทฯ มีรายได้ดอกเบี้ยสุทธิจำนวน 567 ล้านบาท เกิดจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ดอกเบี้ยจำนวน 320.67 ล้านบาท โดยเป็นการเพิ่มขึ้นของรายได้ดอกเบี้ยจากเงินให้สินเชื่อจำนวน 327.88 ล้านบาท เป็นผลมาจากต้นทุนทางตรงที่เกี่ยวข้องกับการให้สินเชื่อลดลง การลดลงของรายได้ดอกเบี้ยจากรายการระหว่างธนาคารและตลาดเงิน (Repo) จำนวน 5.80 ล้านบาท เป็นผลจากขนาดการทำธุรกรรมลดลงเมื่อเทียบปี 2562 และการลดลงของรายได้ดอกเบี้ยจากเงินลงทุนในตราสารหนี้จำนวน 1.41 ล้านบาท เป็นผลมาจากการขายและการครบกำหนดไถ่ถอนของเงินลงทุนในปี 2562 ขณะที่ปี 2563 บริษัทไม่มีการลงทุนเพิ่มในตราสารหนี้

ส่วนการลดลงของค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยจำนวน 246.33 ล้านบาท เกิดจากการลดลงของค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยจากเงินรับฝากจำนวน 48.47 ล้านบาท ซึ่งสอดคล้องกับการลดลงของเงินรับฝากจาก 6.348.33 ล้านบาท ณ สิ้นปี 1562 เป็น 5,234.10 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2563 หรือลดลง 17.55% รวมทั้งการลดลงของค่าใช้จ่ายจากดอกเบี้ยจากเงินนำส่งสถาบันคุ้มครองเงินฝากและกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน 39.14 ล้านบาท ซึ่งแปรผันตามการลดลงของสัดส่วนเงินรับฝาก เงินกู้ยืมและมาตรการของรัฐบาล

การลดลงของค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยจากตราสารหนี้ที่ออกและเงินกู้ยืมจำนวน 173.34 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลจากการจ่ายคืนเงินกู้ยืมเพื่อใช้ในการดำเนินธุรกิจของบริษัททั้งหมดในระหว่างปี 2563 หรือคิดเป็นการลดลง 100% และการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยของหนี้สินตามสัญญาเช่าจำนวน 14.61 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลจาก
มาตรฐานการรายงานทางการเงินฉบับที่ 16

นอกจากนี้การลดลงของรายได้ค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้องกับเงินให้สินเชื่อจำนวน 75.55 ล้านบาท เป็นผลมาจากการปรับปรุงแนวปฏิบัติตามประกาศของธนาคารแห่งประเทศไทย อีกทั้งมีการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการดำเนินงานอื่นๆ จำนวน 44.64 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของรายได้หนี้สูญได้รับคืนในปี 2563

บริษัทฯ มีการเพิ่มขึ้นของกำไรสุทธิจากการวัดมูลค่าของเครื่องมือทางการเงิร 60.23 ล้านบาทและมีการเพิ่มขึ้นของกำไรจากการขายเงินลงทุน 54.73 ล้านบาท ผลจากการจำหน่ายเงินลงทุนระหว่างปี 2563

การลดลงของค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานอื่นๆจำนวน 227.46 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการลดลงของค่าบริหารจัดการสินเชื่อ 369.20 ล้านบาทและการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับพนักงาน 127.40 ล้านบาทเมื่อเทียบงวดปี 2562 และมีการเพิ่มขึ้นของผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจำนวน 16.24 ล้านบาท เป็นผลจากการปรับปรุงการกันสำรองให้เป็นไปตามมาตรฐานการรายงานทางการเงินฉบับที่ 9 ซึ่งมีผล 1 ม.ค.2563