• ในสัปดาห์ที่ผ่านมาตลาดหุ้นส่วนใหญ่ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง จากความคืบหน้าเรื่องวัคซีน โดยขณะนี้วัคซีนของบริษัท Astrazeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech และ Moderna ได้รับอนุมัติให้ใช้วัคซีนต้านไวรัส COVID-19 สำหรับการรักษากรณีฉุกเฉินได้ ประกอบกับข่าวดีเรื่องผลการเลือกตั้งสหรัฐฯ ที่ออกมาอยู่ในรูปแบบ Blue Sweep ซึ่งส่งผลให้แผนกระตุ้นเศรษฐกิจขนาดใหญ่มีโอกาสได้รับความเห็นชอบจากสภาได้ง่ายขึ้น โดยล่าสุดว่าที่ปธน. Joe Biden เปิดเผยแผนกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ วงเงิน 1.9 ล้านล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ คิดเป็นมูลค่าสูงถึง 8.9% ของ GDP ใกล้เคียงกับตลาดคาดที่ประมาณ 1.5 – 2.0 ล้านล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ นับเป็นปัจจัยหนุนตลาดหุ้นในช่วงนี้
• แผนการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ของ ว่าที่ปธน. Joe Biden มีรายละเอียด ดังนี้ 1) เพิ่มวงเงินให้เปล่าเป็นคนละ 1,400 ล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ (เพิ่มเติมจากปลายเดือน ธ.ค. ที่คนละ 600 ล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ 2) เพิ่มการให้สวัสดิการว่างงานพิเศษเป็น 400 ล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ ต่อสัปดาห์ และขยายระยะเวลาการให้จนถึงเดือน ก.ย. นอกจากนี้ นาย Biden มีแผนที่จะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอีกในระยะข้างหน้า ซึ่งเป็นแผนระยะยาว เกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐาน และการแก้ปัญหาการเปล่ียนแปลงของภูมิอากาศ (Climate Change)
• เงินเฟ้อ Core CPI เดือน ธ.ค. ของสหรัฐฯ ทรงตัวที่ 1.6% YoY เท่ากับที่ตลาดคาด โดยราคาสินค้าบริการในกลุ่มที่เกี่ยวเนื่องกับ COVID-19 ยังคงถูกกดดัน จากจำนวนผู้ติดเชื้อ COVID-19 รายใหม่ที่เร่งตัวขึ้นสูง รวมทั้งการเพิ่มความเข้มงวดในมาตรการ Lockdown ในช่วงเดือน ธ.ค. ซึ่งเงินเฟ้อที่คาดว่าจะขยายตัวต่ำกว่าเป้าหมายที่ 2% จะเป็นปัจจัยที่ส่งผลให้ Fed ยังคงนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายต่อไป โดยคาดว่า Fed จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับต่ำในปัจจุบัน (0-0.25%) ไปจนถึงปี 2023 เป็นอย่างน้อย ตามที่ระบุใน Dot Plot และจะยังคงการเข้าซื้อสินทรัพย์ที่อัตรา 1.2 แสนล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ ต่อเดือน
• การจ้างงานในสหรัฐฯ ลดลง 1.40 แสนตำแหน่งในเดือน ธ.ค. ต่ำกว่าตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 5.0 หมื่นตำแหน่งเป็นอย่างมาก จากการระบาดรุนแรงของ COVID-19 ที่ส่งผลให้มีการกลับมาใช้มาตรการ Lockdown เข้มงวดในบางพื้นที่ เช่น รัฐ California และ New York โดยการจ้างงานในหมวดโรงแรมและการพักผ่อนลดลงแรงถึง 4.98 แสนตำแหน่ง อย่างไรก็ดี การจ้างงานในหมวดหลักอื่นๆ กว่า 60% ปรับตัวดีขึ้น ส่งผลให้อัตราการว่างงานทรงตัวที่ 6.7% เท่ากับเดือนก่อน
• ยอดปล่อยสินเชื่อจีน ชะลอตัวลงในเดือน ธ.ค. โดยยอดระดมทุนรวมสุทธิ (Total Social Financing) เดือน ธ.ค.อยู่ที่ 1.72 ล้านล้านหยวน ชะลอตัวลงจาก 2.13 ล้านล้านหยวน ในเดือนก่อน และต่ำกว่าที่ตลาดคาดที่ 2.19 ล้านล้านหยวน เนื่องจากรัฐบาลจะกลับมาเพิ่มความเข้มงวดในนโยบายการเงินท่ามกลางเศรษฐกิจที่ทยอยฟื้นตัวกลับเข้าสู่ภาวะปกติ รวมทั้งความต้องการลดความเสี่ยงในภาคการเงินและควบคุมระดับหนี้ในระบบ
กลยุทธ์การลงทุนตลาดหุ้น
ตลาดหุ้นไทย : แนะนำคงน้ำหนักการลงทุนในหุ้นไทย
ตลาดหุ้นเกาหลี : แนะนำคงน้ำหนักการลงทุนในหุ้นเกาหลี
ตลาดหุ้นจีน : แนะนำคงน้ำหนักการลงทุนในหุ้นจีน A-Shares และหุ้นจีน H-Shares
ตลาดหุ้นยุโรป : แนะนำคงน้ำหนักการลงทุนในหุ้นยุโรป
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ : แนะนำคงน้ำหนักการลงทุนในหุ้นสหรัฐฯ
ตลาดหุ้นอินเดีย : แนะนำคงน้ำหนักการลงทุนในหุ้นอินเดีย
ตราสารหนี้
ตราสารหนี้ไทย : แนะน้ำเพิ่มน้ำหนักการลงทุนใน SCBFP
ตราสารหนี้ต่างประเทศ : แนะนำเพิ่มน้ำหนักการลงทุนใน SCBUSHY, SCBFIN และลดน้ำหนักการลงทุนใน SCBGSIF
สินทรัพย์ทางเลือก
ทองคำ : แนะนำคงน้ำหนักการลงทุนในทองคำ
น้ำมัน : แนะนำคงน้ำหนักการลงทุนในน้ำมัน
อสังหาริมทรัพย์และโครสร้างพื้นฐาน : แนะนำคงน้ำหนักการลงทุนใน PF, REITS& IF
