ก.ล.ต. จี้ตลาดเร่งทบทวน เกณฑ์ฟรีโฟลทต่ำ ขึ้นป้ายเตือน

HoonSmart.com>>ก.ล.ต.อึ้ง! เกณฑ์ฟรีโฟลทต่ำ ปรับปรุงครั้งล่าสุดเมื่อปี 2551 สั่งตลาดหลักทรัพย์ทบทวนเกณฑ์ให้สะท้อนภาวะตลาดที่เปลี่ยนแปลงไปมาก และการถือหุ้นโดยผู้ถือหุ้นรายย่อยแท้จริง หลังพบเป็นหนึ่งในต้นเหตุทำราคาหุ้น เดลต้าฯพุ่งแรง ถือโอกาสทบทวนมาตรการขึ้นเครื่องหมายเตือนผู้ลงทุน บล.โนมูระฯ จับตากระทบหุ้นใน SET 50 นำโดย DELTA, GPSC, AWC, VGI หุ้นใน SET 100 คือ BPP, ACE, CKP เหตุมีสภาพคล่องใกล้เกณฑ์ต่ำ นักลงทุนเลิกเล่น DELTA-KTC  ราคาเหวี่ยงน้อยลง วอลุ่มหายวับ

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า ก.ล.ต.ได้ประสานไปยังตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อขอให้พิจารณาทบทวนหลักเกณฑ์การกระจายการถือหุ้นโดยผู้ถือหุ้นรายย่อย (ฟรีโฟลท ) ของบริษัทจดทะเบียน (บจ.)ให้สามารถซื้อขายได้อย่างคล่องตัวในราคาที่เหมาะสม และพิจารณาทบทวนมาตรการขึ้นเครื่องหมายเตือนผู้ลงทุน โดยเฉพาะหุ้นที่มีฟรีโฟลทต่ำ รวมถึงมาตรการอื่นใด เพื่อคุ้มครองประโยชน์ของผู้ถือหุ้นและผู้ลงทุน

นางสาวรื่นวดี สุวรรณมงคล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวว่า หลักเกณฑ์ฟรีโฟลทที่กำหนดโดยตลาดหลักทรัพย์ฯและต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการ ก.ล.ต. มีความสำคัญอย่างมากต่อสภาพคล่องในการซื้อขายหุ้น  และยังเป็นหนึ่งในหลักเกณฑ์การคัดเลือกหลักทรัพย์สำหรับดัชนี SET50 ดัชนี SET100 และดัชนี SETHD อีกด้วย

อย่างไรก็ดี หลักเกณฑ์ดังกล่าวมีการปรับปรุงครั้งล่าสุดเมื่อปี 2551 จึงเห็นว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ ควรพิจารณาทบทวนว่าหลักเกณฑ์ยังสามารถสะท้อนการกระจายการถือหุ้นโดยผู้ถือหุ้นรายย่อยอย่างแท้จริงอยู่หรือไม่ เนื่องด้วยสภาวะตลาดปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงไป

จากตัวอย่างกรณีของราคาหุ้น DELTA ที่ในช่วงที่ผ่านมามีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก ซึ่ง ก.ล.ต. ได้ประสานไปยังตลาดหลักทรัพย์ฯ ขอให้ติดตามสภาวะการซื้อขายของหลักทรัพย์ดังกล่าวอย่างใกล้ชิด เพื่อคุ้มครองผู้ลงทุนและป้องกันการบิดเบือนราคาและปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์ให้ผิดไปจากสภาพปกติ ตั้งแต่ช่วงปลายเดือนธ.ค.2563 แล้วนั้น ก.ล.ต. พบว่าปัจจัยหนึ่งเป็นผลจากหุ้น DELTA มีฟรีโฟลทที่แท้จริงค่อนข้างต่ำ ประกอบกับราคาซื้อขายมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว แต่ตามหลักเกณฑ์ปัจจุบันยังไม่เข้าข่ายมีการขึ้นเครื่องหมายเตือนเพื่อให้ผู้ลงทุนระมัดระวังในการตัดสินใจลงทุน

ดังนั้น ก.ล.ต. จึงได้ขอให้ตลาดหลักทรัพย์ฯ พิจารณาทบทวนหลักเกณฑ์ฟรีโฟลทและมาตรการขึ้นเครื่องหมายเพื่อเตือนผู้ลงทุน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรณีการเปลี่ยนแปลงราคาอย่างรวดเร็วของหุ้นที่มีฟรีโฟลทต่ำ รวมถึงมาตรการอื่นใดที่จะช่วยคุ้มครองผู้ถือหุ้นและผู้ลงทุน

“การกำกับดูแลการซื้อขายหลักทรัพย์ให้เป็นไปอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยและเกิดความเป็นธรรม เป็นมาตรการเพื่อคุ้มครองประโยชน์ของผู้ถือหุ้นและผู้ลงทุน หลังจากที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้เสนอทบทวนหลักเกณฑ์ รวมถึงมาตรการต่าง ๆ แล้ว ก.ล.ต. จะเร่งนำแนวทางการปรับปรุงหลักเกณฑ์ดังกล่าวเสนอต่อคณะกรรมการ ก.ล.ต. เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบต่อไป” เลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าว

ด้านบล.โนมูระ พัฒนสิน วิเคราะห์ว่ามีหุ้น 7 บริษัทที่มีความเสี่ยงที่จะได้รับผลกระทบ หากตลาดปรับเกณฑ์ฟรีโฟลทต่ำ ซึ่งเป็นหุ้นใน SET 50 จำนวน 4 บริษัท ได้แก่ DELTA, GPSC, AWC, VGI  และหุ้นใน SET 100 คือ BPP, ACE, CKP เพราะมีฟรีโฟลทเกินเกณฑ์ขั้นต่ำ 20% ไม่มาก คือในกรอบ 20-25%

หุ้นเหล่านี้จะได้รับผลกระทบหากทางการพิจารณาขยับเกณฑ์ฟรีโฟลทของการคำนวณ SET50-100 มากกว่า 25% ในอนาคต หรือปรับเข้มงวดในส่วนของการพิจารณาสภาพคล่องการหมุนเวียนของหุ้นภายในรายเดือนที่เข้มขึ้นจากเดิม 5% ลดทีละ 0.5% ลงมาไม่ต่ำกว่า 1% อาจขยับฐานสูงขึ้น เพื่อได้ชุดหุ้นที่มีสภาพคล่องภายในสูง กลุ่มหุ้นที่ตลาดจับตา น่าจะเป็นหุ้นขนาดใหญ่ใน SET 50-100 เพราะเป็นกลุ่มที่มีผลต่อการเคลื่อนไหวของดัชนีดัชนีตลาดหลักทรัพย์ และ SET50-100 สูง

การซื้อขายหุ้นวันที่ 11 ม.ค.2564 ที่ผ่านมา หุ้นที่มีฟรีโฟลทต่ำ ลดความร้อนแรงลง เช่น DELTA ราคาปิดที่ระดับ 732 บาท ลดลง 16 บาท หรือ 2.14% มูลค่าการซื้อขายบางลง 1,723 ล้านบาท เทียบกับก่อนหน้านี้ บางวันราคาดีดขึ้นแรงเฉียด 30 %  ท่ามกลางมูลค่าการซื้อขายมากกว่า 1 หมื่นล้านบาท เช่นเดียวกับหุ้น KTC ราคาปิดที่ 78.25 บาท -0.75 บาทหรือ 0.95% มูลค่าซื้อขาย 1,858 ล้านบาท จากที่เคยเปลี่ยนมือมากกว่า 6 พันล้านบาทต่อวัน