ตลาดปล่อยหัวลากใหม่ KTC เตือนเม่าระวังเก็งกำไรหุ้นร้อน

HoonSmart.com>>นักลงทุนมึน !!! หุ้น KTC หัวลากใหม่ วิ่งไร้เหตุผล คาดสลับเก็งกำไรกับหุ้น DELTA  อัดระบบสตรีมมิ่ง ล่มซ้ำ 2 ช่วงกำลังเทหุ้น DELTA นักวิเคราะห์ระบุ ราคาวิ่งเกินเป้าหมาย ร้องตลาดหลักทรัพย์ ตามให้ทัน ดับไฟแต่ต้นลม เหมือน NEX ราคาพุ่ง-วอลุ่มซื้อขาย พอง ตลาดปรี่ให้ชี้แจงข้อมูล พร้อมจับแขวนวางเงินสดก่อนซื้อ 15 วันทำการทันที  ด้านบล.ทิสโก้ เตือนแล้วหุ้นฟรีโฟลทต่ำ ใน SET 50 จำนวน 3 หลักทรัพย์ DELTA-KTC-IVL ส่วนใน SET 51-100 ต้องระวัง ESSO 

ราคาหุ้นบริษัท บัตรกรุงไทย ( KTC ) ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องจากหุ้น 30 บาท ช่วงต้นเดือนก.ย. 2563  ปัจจุบันลากขึ้นมาเก็งกำไรสนั่น ท่ามกลางมูลค่าซื้อขายหนาแน่นติดอันดับสูงสุดของตลาดในวันที่ 11 ม.ค. 2564 ด้วยราคาสูงสุดใหม่ของวัน 90.25 บาท พุ่ง 13.25 บาท ก่อนตบลงมาปิด 79 บาท บวก 2.25 บาท หรือ 2.93 % โดยระหว่างวันราคาสวิงขึ้น-ลง แรงถึง 15 บาท

สอบถามนักวิเคราะห์ หลายรายไม่ให้ความเห็น เพราะต่างงง !!! กับราคาที่วิ่งขึ้นมาเกินเป้าหมาย ซึ่ง บล.เมย์แบงก์กิมเอ็ง (ประเทศไทย ) ให้ไว้  41 บาท (12 เดือน  ณ วันที่ออกบทวิเคราะห์ ต.ค. 2563  ) ขณะที่นักลงทุนรายใหญ่ มองว่า การเก็งกำไร KTC เป็นการทำดัชนี สลับกับหุ้น เดลต้า  อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) หรือ DELTA ที่ราคาขึ้นไม่ไหวแล้ว ลักษณะของการเก็งกำไร KTC ไม่ต่างอะไรกับหุ้นปั่นสมัยก่อน ต่างกันตรงที่ KTC หรือ DELTA มีพื้นฐานรองรับ เจ้าของหุ้นไม่ขาย ลากราคาได้ง่าย

นักลงทุนรายใหญ่ ยังกล่าวอีกว่า ตลาดหลักทรัพย์ ตามไม่ทัน ปล่อยให้ลากหุ้นฟรีโฟลทต่ำ ทำดัชนี  ซึ่งจะทำให้ตลาดถล่มครืนลงมาหนัก ๆ ได้ ถ้าหุ้นที่ถูกลากขึ้นไปถูกทิ้งลงมา ควรออกมาตรการดับหุ้นร้อนโดยเร็ว  ป้องกันความเสียหายจากการสร้างราคาหุ้น

ขณะที่หุ้นเน็กซ์ พอยท์ ( NEX )  วันที่ 11 ม.ค. 64 ราคาปรับตัวขึ้นแรง ท่ามกลางซื้อขายหนาแน่น ปิดที่ 5.65 บาท เพิ่มขึ้น 1.07 บาท หรือ 23.36 % มูลค่าซื้อขาย 529.24 ล้านบาท ถูกตลาดหลักทรัพย์สอบถามถึงการเปลี่ยนแปลงของราคา ( Trading Alert ) และสั่งซื้อขายด้วยเงินสด (แคชบาลานซ์ ) ทันที ตั้งแต่ 12 ม.ค. – 1 ก.พ. 2564

บล.ทิสโก้ วิเคราะห์หุ้นฟรีโฟลทต่ำ พบว่าหุ้นใน SET50 Index มีฟรีโฟลทเฉลี่ย 46.4% (สูงสุด = 98.6%, ต่ำสุด = 22.4%) และหุ้นใน SET51-100 Index มีฟรีโฟลทเฉลี่ย 48.4% (สูงสุด = 87.8%, ต่ำสุด = 21.2%)

หุ้นใน SET50 ที่มีฟรีโฟลทต่ำที่สุด 5 อันดับแรก คือ DELTA (22.4%), VGI (24.7%), GPSC (24.7%), AWC (25.0%) และ TOA (25.0%) ขณะที่หุ้นใน SET51-100 ที่มีฟรีโฟลทต่ำสุด คือ BPP (21.2%), ACE (21.8%), CKP (23.8%), EPG (25.9%) และ WHAUP (26.8%) ตามลำดับ

หุ้นที่มีฟรีโฟลทต่ำกว่าเฉลี่ยที่ 46.4% และราคาหุ้นปรับตัวขึ้นมากกว่า 30% ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา จนขึ้นมาสูงกว่าราคาเป้าหมายของตลาดโดยรวม (Bloomberg Consensus) ในส่วนหุ้นในดัชนี SET50 ที่เข้าข่ายนักลงทุนควรใช้ความระมัดระวังมากเป็นพิเศษ คือ DELTA, KTC และ IVL เนื่องจากราคาหุ้นปรับตัวขึ้นถึง 301% , 94% และ 70%  ส่วนหุ้นใน SET51-100  ต้องระวังคือ ESSO

สำหรับการซื้อขายหุ้นช่วงบ่ายวันที่ 11 ม.ค. 2564  หลังเปิดตลาดเวลา 14.30 น. ดัชนี  SET บวกอยู่ดี ๆ กลับร่วง 7 จุด จากแรงขายหุ้นเดลต้าฯ (DELTA) ซึ่งช่วงเช้า 766 บาท บวก 48 บาท เปิดตลาดช่วงบ่าย แรงขายเทหุ้นออกมา กดราคาไหลลงต่อเนื่อง และเวลา 14.50 น . ระบบซื้อขาย STEAMING ล่ม นักลงทุนไม่สามารถทำรายการได้ ในช่วงจังหวะที่หุ้น DELTA กำลังถูกขาย ใช้เวลาที่ระบบล่ม ประมาณ 20 นาที จึงเริ่มซื้อขายได้ ณ เวลา 15.30 น ยังพบว่าระบบ ยังค้างเป็นช่วง ๆ

นักลงทุนรายหนึ่ง ซึ่งอารมณ์เสียกับระบบ STEAMNIG ที่ซื้อขายไม่ได้ กล่าวว่า ระบบล่ม ช่วงที่หุ้น เดลต้าฯ กำลังถูกเทขาย เหมือนถูกสะกดไม่ให้ขายหุ้น ถือเป็นการล่มในรอบ 2 ห่างกันไม่ถึงเดือน แต่หลังจากระบบซื้อขายได้ปกติ ได้เปลี่ยนตัวลากจาก DELTA มาเป็น KTC แทน ซึ่งตลาดหลักทรัพย์ ควรตรวจสอบระบบสตรีมมิ่ง ไม่ให้ล่มระหว่างเทรด เพราะทำให้เกิดความเสียหายกับนักลงทุนได้