OR ขาย IPO ปลายม.ค.จังหวะดี มาร์เก็ตแคปเกิน 2 แสนลบ.หนุน PTT

HoonSmart.com>>”ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก”พร้อมเสนอขาย 3,000 ล้านหุ้นปลายม.ค.นี้ คาดเข้าซื้อขายใน SETกลางก.พ. บล.กรุงศรีประมาณการกำไรปี 63 ร่วม 1.4 หมื่นล้านบาท มาร์เก็ตแคป 2.09 แสนล้านบาท หนุนมูลค่าหุ้นปตท.ปรับเป้าราคาเป็น 48 บาท บลจ.เมอร์ชั่นฯคาดราคาน้ำมันดิบเบรนท์ปีนี้ 65 เหรียญสหรัฐฯ บวกต่อหุ้นพลังงาน บล.ทิสโก้คาด PTTGC ,BBL,KKP ยังไปต่อ

บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก(OR) พร้อมจะเสนอขายหุ้นให้ประชาชนครั้งแรก (IPO) ในปลายเดือนม.ค.นี้ โดยเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนไม่เกิน 2,610 ล้านหุ้น และจัดสรรหุ้นส่วนเกิน 390 ล้านหุ้น รวม 3,000ล้านหุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้(พาร์หุ้นละ) 10 บาท คาดว่าจะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(SET) ประมาณกลางเดือนก.พ.นี้

PTTOR ประกอบธุรกิจจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมและธุรกิจค้าปลีกสินค้าและบริการอื่น ๆ (Non-Oil) ทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งรวมถึงการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมและผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ในตลาดค้าปลีกและตลาดพาณิชย์ ธุรกิจกาแฟ ร้านอาหารและเครื่องดื่มอื่น ๆ ร้านสะดวกซื้อ และการบริหารจัดการพื้นที่

นายณภัทร จันทรเสรีกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ปัจจัยพื้นฐาน ด้านหลักทรัพย์ขนาดใหญ่ บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี เปิดเผยว่า ได้ปรับคำแนะนำหุ้นบริษัทปตท.( PTT) เป็น “ซื้อ” และเพิ่มราคาเป้าหมายเป็น 48 บาท จากการปรับสมมติฐานราคาน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้น รวมราคาเป้าหมายของบริษัทลูก บริษัทร่วมค้า และ OR เข้าไปในประมาณการ โดยในปี 2563 คาด OR มีกำไร 1.04 หมื่นล้านบาท มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (มาร์เก็ตแคป) อยู่ที่ 2.09 แสนล้านบาท

นอกจากนี้มูลค่าของปตท.ยังปรับขึ้นตามความต้องการน้ำมัน ส่วนผลกระทบจากความต้องการน้ำมันจากรถยนต์ไฟฟ้า(EV) จะจำกัดในประเทศไทยและประเทศในกลุ่มอาเซียน

ด้าน นักวิเคราะห์ 10 ราย ให้ราคาปตท.เฉลี่ย 46.38 บาท ราคากลาง 45.75 บาท บล.บัวหลวงให้เป้าหมายสูงสุด 54 บาท และบล.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ให้ต่ำที่สุด 40 บาท ขณะที่ราคาปิดที่ 42.75 บาท วันที่ 9 ม.ค.2564

นายประกิต สิริวัฒนเกตุ ผู้อำนวยการอาวุโส บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เมอร์ชั่น พาร์ทเนอร์ เปิดเผยว่า ในปีนี้คาดว่าราคาน้ำมันดิบเบรนท์อยู่ที่ 65 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ยิ่งส่งผลต่อดีหุ้นพลังงาน ซึ่งตามกระแสการลงทุนของโลก หุ้นวัฏจักรจะกลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจทั่วโลก ขณะเดียวกันเริ่มปรับลดการลงทุนในหุ้นเทคโนโลยี  ในตลาดหุ้นไทยมีหุ้นวัฏจักรจำนวนมาก เชื่อว่าหุ้นในไทยจะเป็นเป้าหมายและจะปรับตัวดีขึ้นกว่าตลาดแน่นอน

“ส่วนการลงทุนนั้น เราจะเห็นว่ามูลค่าปรับขึ้นสูงกว่าปัจจัยพื้นฐานมาก จึงประเมินด้วยมูลค่าไม่ได้ ให้มองถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น คือธีมการลงทุนของโลกในตอนนี้ สนใจหุ้นวัฏจักร ผมชอบหุ้นพลังงาน ปิโตรเคมี การเงินต่างๆ ส่วนกองทุน Tech นั้นถ้าราคาปรับลดลงมาก็ซื้อได้ เพราะในอนาคตยังไงก็ปรับขึ้นอยู่ดี” นายประกิต กล่าว

ด้านนายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ เปิดเผยว่า ปีนี้มองกลยุทธ์ลงทุนหุ้นวัฏจักร จะฟื้นตัวตามเศรษฐกิจโลก โดยหุ้นขนาดใหญ่เริ่มฟื้นตัว ซึ่งแนะนำเลือกลงทุนรายตัวในหุ้นที่ยังมีโอกาสปรับขึ้นได้อีก ให้ PTTGC ,BBL และ KKP