บลจ.วรรณส่งทริกเกอร์หุ้นตปท.เข้าเป้า 8% เสิร์ฟกองใหม่ขาย 12-18 ม.ค.

HoonSmart.com>> บลจ.วรรณ โชว์ความสำเร็จบริหารทริกเกอร์ฟันด์หุ้นต่างประเทศ ONE-GLOBALTOP8M2 เข้าเป้าหมาย 8% หลังส่ง 3 กองทุนถึงเป้าในเดือนธ.ค.63 พร้อมเปิดขายกองทุน ONE-GLOBALTOP8M8 ตั้งแต่ 12-18 ม.ค.นี้ ผ่านธนาคารไทยพาณิชย์ทุกสาขา เชื่อมั่นปีนี้สินทรัพย์เสี่ยงได้รับผลดี จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ นโยบายผ่อนคลายทางการเงินทั่วโลก แนะลงทุนหุ้น new economy หุ้นกลุ่มเทคโนโลยี โดยเฉพาะหุ้นขนาดกลาง-เล็ก

พจน์ หะริณสุต

นายพจน์ หะริณสุต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) วรรณ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทประสบความสำเร็จบริหารกองทุนเปิด วรรณโกลบอล ท็อป 8M2 (ONE-GLOBALTOP8M2) โดยสามารถสร้างผลตอบแทนได้ตามเป้าหมายก่อนกำหนด โดยใช้ระยะเวลาการบริหารประมาณ 3 เดือน ซึ่งบริษัทได้รับซื้อคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติให้กับผู้ลงทุนในอัตรา 10.83 บาทต่อหน่วย หรือ 8% ตามที่ตั้งไว้ ทั้งนี้ บริษัทจะรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติตั้งแต่วันที่ 5 ม.ค.2564

“ในปีที่ผ่านมาบลจ.วรรณได้ร่วมมือกับธนาคารไทยพาณิชย์ ด้วยการเปิดเสนอขายกองทุนประเภททริกเกอร์ฟันด์ที่เน้นลงทุนในหุ้นต่างประเทศมาอย่างต่อเนื่อง ถือว่าประสบความสำเร็จที่ดี โดยเดือนธ.ค.ที่ผ่านมา กองทุนทริกเกอรฟันด์ ONE-GLOBALTOP8M3 ONE-GLOBALTOP8M4 และ ONE-GLOBALTOP8M5 สามารถสร้างผลตอบแทนแตะผ่านทริกเกอร์ครั้งแรกในระดับราคา NAV ประมาณ 10.40 บาทต่อหน่วย หรือ 4% ตามเป้าหมาย โดยบริษัทได้รับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติของกองทุนดังกล่าวไปเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ทั้งนี้ หากผู้ลงทุนสนใจลงทุนกองทุนทริกเกอร์ฟันด์ในตลาดต่างประเทศ โดยในสัปดาห์หน้าบริษัทจะทำการเปิดเสนอขายกองทุน ONE-GLOBALTOP8M8 ระหว่างวันที่ 12-18 ม.ค.2564 ที่ธนาคารไทยพาณิชย์ทุกสาขาเท่านั้น” นายพจน์กล่าว

สำหรับกองทุนเปิด วรรณโกลบอล ท็อป 8M8 มีนโยบายการลงทุนแบบยืดหยุ่น โดยเน้นกระจายการลงทุนในกองทุนหุ้นต่างประเทศเป็นสัดส่วนหลัก และส่วนที่เหลือลงทุนในพันธบัตรภาครัฐบาล ซึ่งผู้จัดการกองทุนสามารถการคัดเลือกและปรับเปลี่ยนการลงทุนให้เหมาะสมกับสถานการณ์เพื่อสร้างผลตอบแทนให้ได้ตามเป้าหมายที่ 8% ในระยะเวลา 8 เดือน โดยที่ผ่านมาผู้จัดการลงทุนได้เน้นลงทุนใน Baillie Gifford Long Term Global Growth กองทุน Baillie Gifford Worldwide Discovery และกองทุน UBS Lux Equity SICAV – All China เป็นส่วนใหญ่ ซึ่งสามารถสร้างผลตอบแทนได้ดีตามเป้าหมาย โดยกองทุนทั้ง 3 ที่ลงทุนในหุ้นคุณภาพและมีความสามารถในการแข่งขันสูง

ทั้งนี้ผู้จัดการกองทุนสามารถเพิ่มการลงทุนในกองทุนที่มีศักยภาพอื่นๆเพื่อให้เหมาะกับสถานการณ์ปัจจุบันเพื่อให้ผู้ลงทุนได้ผลตอบแทนตามเป้าหมายดังเช่นที่ผ่านมา โดยน้ำหนักการลงทุนของแต่ละกองทุนจะขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน

นายพจน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การใช้นโยบายทางการเงินของธนาคารกลางหลายๆแห่งในปีนี้ ยังคงดำเนินนโยบายทางการเงินแบบผ่อนคลาย เพื่อช่วยเศรษฐกิจของประเทศตนจากเหตุการณ์แพร่ระบาดของ Covid-19 ซึ่งเป็นผลดีต่อสินทรัพย์เสี่ยง โดยมองว่า ตลาดทุนทั่วโลกยังคงได้รับแรงหนุนจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจหลังการแพร่ระบาดของ Covid-19 แม้ทั่วโลกจะมีการแพร่ระบาดระลอกใหม่ในสิ้นปีที่ผ่านมา แต่ด้วยความคืบหน้าของวัคซีนต้าน Covid-19 จึงช่วยให้นักลงทุนเริ่มมองเห็นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจหลังจากการแพร่ระบาดของ Covid-19 จบลง อย่างไรก็ดี ยังคงแนะนำให้นักลงทุนทยอยซื้อสะสมกองทุนที่มีศักยภาพในการแข่งขันสูง และมีแนวโน้มฟื้นตัวได้หลังจากจบการแพร่ระบาด Covid-19 โดยหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยี ในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังมีความน่าสนใจ โดยเฉพาะหุ้นในกลุ่ม Mid-Small Cap ที่มีศักยภาพเติบโตสูง

อย่างไรก็ดี หากนักลงทุนต้องการลงทุนในระยะสั้น (ภายในกรอบเวลา 8 เดือน) เพื่อสร้างโอกาสรับผลตอบแทนให้ได้ 8% ในบริษัทที่ศักยภาพและมีความสามารถในการแข่งขันสูงพร้อมกับมีผู้จัดการกองทุนที่มีความสามารถคอยดูแลด้านการลงทุนอย่างใกล้ชิด ONE-GLOBALTOP8M8 ถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้ที่สนใจลงทุนในตลาดต่างประเทศ