ดาวโจนส์ปิดบวกกว่า 430 จุด จ้างงานเอกชนลดรอบ 8 เดือน

HoonSmart.com>> ดาวโจนส์ปิดบวกกว่า 430 จุด หวังมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจหลังพรรคเดโมแครตแนวโน้มชนะเลือกตั้งส.ว.รัฐจอร์เจีย ด้านตัวเลขจ้างงานเอกชนลด 123,000 ตำแหน่ง ลดลงครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนเม.ย. ด้านตลาดหุ้นยุโรปบวก ราคาน้ำมันปรับเพิ่มขึ้น

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) วันที่ 6 มกราคม 2564 ปิดที่ 30,829.40 จุด เพิ่มขึ้น 437.8 จุด หรือ 1.44% จากความคาดหวังว่าจะมีการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพราะมีแนวโน้มที่พรรคเดโมแครตจะชนะการเลือกตั้งวุฒิสมาชิกในจอร์เจีย

ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,748.14 จุด เพิ่มขึ้น 21.28 จุด, +0.57%

ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 12,740.79 จุด ลดลง 78.17 จุด, -0.61%

แต่ตลาดอ่อนตัวลงจากระดับสูงสุดของวัน หลังจากมีกลุ่มผู้สนับสนุนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ก่อเหตุประท้วงและบุกเข้าไปในอาคารรัฐสภาเพื่อคัดค้านการประชุมรับรองนายโจ ไบเดนว่าชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดี

การนับผลคะแนนเลือกตั้งวุฒิสมาชิกมีแนวโน้มว่าผู้สมัครของพรรคโมแครต 2 รายจะได้ชัยชนะซึ่งจะส่งผลให้เสียงในวุฒิสภามีสัดส่วน 50-50 ระหว่างสองพรรค และหากบวกคะแนนเสียงรองประธานาธิบดีกมลา แฮร์ริสเข้าไป พรรคเดโมแครตจะควบคุมวุฒิสภา ซึ่งจะส่งผลให้ผ่านมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจได้ ทำให้นักลงทุนมีความหวังต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจมากขึ้น

โกลด์แมน แซคส์ประเมินว่า มาตรการกระตุ้นชุดใหม่จะมีวงเงินราว 600 พันล้านดอลลาร์ออกมาในเร็วนี้ หากพรรคเดโมแครตคุมสภา

ออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) และมูดี้ส์ อนาลิติกส์ เผย การจ้างงานของภาคเอกชนเดือนธันวาคมลดลง 123,000 ตำแหน่งในเดือนธ.ค. เป็นการลดลงครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนเมษายน ไอเอชเอส มาร์กิต เผย ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายเดือนธันวาคมลดลงมาที่ระดับ 54.8 ต่ำสุดในรอบ 3 เดือน จากระดับ 58.4 ในเดือนพฤศจิกายน

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีปรับเพิ่มไปที่ 1.03% ซึ่งเหนือ 1% เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนมีนาคม และส่งผลให้หุ้นธนาคารปรับตัวขึ้นเพราะอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นส่งผลดีต่อผลประกอบการ โดยหุ้นเจพี มอร์แกน เชสเพิ่มขึ้น 4.7% หุ้นแบงก์ออฟอเมริกาเพิ่มขึ้น 6.3% หุ้นโกลด์แมน แซคส์ เพิ่มขึ้น 5.39% หุ้นซิตี้กรุ๊ป เพิ่มขึ้น 5.74%

หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวลดลง ส่งผลให้ดัชนี Nasdaq ปิดลบ ท่ามกลางความกังวลต่อการปรับเพื่มอัตราภาษี หากพรรคเดโมแครตครองเสียงข้างมากในสภา รวมทั้งการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ทำให้หุ้นกลุ่มนี้มีความน่าสนใจลดลงเมื่อเทียบกับกลุ่มวัฎจักรเศรษฐกิจ โดยหุ้นเฟซบุ๊ก ลดลง 2.82% หุ้นแอมะซอนลดลง 2.49% หุ้นแอปเปิล ลดลง 3.32% หุ้นเน็ตฟลิกซ์ ลดลง 3.9% หุ้นไมโครซอฟท์ ลดลง 2.59%

ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวเพิ่มขึ้น นำโดยกลุ่มธนาคารที่เพิ่มขึ้น 5.7% ขณะที่นักลงทุนจับตาการเลือกตั้งวุฒิสมาชิกในจอร์เจียของสหรัฐฯ ที่จะมีผลต่อการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ และยังเกาะติดสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 หลังจากที่อังกฤษเข้าสู่การล็อกดาวน์ประเทศรอบใหม่ไปแล้วเมื่อวันอังคาร ตลอดจนเยอรมนีขยายการใช้มาตการล็อกดาวน์ไปจนถึงสิ้นเดือนมกราคม

สำนักงานยาแห่งยุโรป (EMA) และคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ประกาศอนุมัติให้ใช้วัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ของบริษัทโมเดอร์นา อิงค์ ในสภาพยุโรป

ไอเอชเอส มาร์กิต เผย ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI)ขั้นสุดท้ายเดือนธันวาคมขยับมาที่ระดับ 49.1 จาก 45.3 เดือนพฤศจิกายน แต่ต่ำกว่า 49.8 ที่ประเมินครั้ง

หุ้นเอชเอสบีซีเพิ่มขึ้น 9.9%, หุ้นสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดเพิ่มขึ้น 9.3% หุ้นเอบีเอ็นแอมโรเพิ่มขึ้น 8.6%

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 406.41 จุด เพิ่มขึ้น 5.47 จุด, +1.36%

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,841.86 จุด เพิ่มขึ้น 229.61 จุด, +3.47%

ดัชนี CAC 40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,630.60 จุด เพิ่มขึ้น 66.00 จุด, +1.19%,

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 13,891.97 จุด เพิ่มขึ้น 240.75 จุด, +1.76%

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ เพิ่มขึ้น 70 เซนต์ ปิดที่ 50.63 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนมีนาคมพิ่มขึ้น 70 เซนต์ ปิดที่ 54.30 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

 
อ่านข่าว

ราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น สต็อกสหรัฐฯ ลดมากกว่าคาด