หุ้นร่วง 20 จุด ตามต่างประเทศ ขายกลุ่มโรงไฟฟ้านำ

HoonSmart.com>> นักลงทุนเทขายหุ้นร่วง 20 จุด ตามตลาดต่างประเทศดาวโจนส์ฟิวเจอร์ร่วงกังวล Blue wave ฉุดหุ้นสหรัฐฯ พักฐาน นักลงทุนขายหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้านำหลังขึ้นแรง ขาย IVL ร่วงกว่า 6% หวั่นสหรัฐฯ ขึ้นภาษีกระทบกำไร

ตลาดหุ้นปรับตัวลงแรง 20 จุด แตะต่ำสุด 1,485.7 จุด ณ เวลา 16.15 น. อยู่ที่ 1,486.95 จุด -19.70 จุด หรือ -1.31% มูลค่าการซื้อขาย 129,490.27 ล้านบาท

หุ้น EA ซื้อขายสูงสุด ราคาปรับตัวลดลง 2.75 บาท หรือ -4.30% ลงมาอยู่ที่ 61.25 บาท GPSC อยู่ที่ 79.75 บาท -5.00 บาท หรือ -5.90% และ IVL โบรกคาดได้รับผลกระทบหากสรัฐฯ ขึ้นภาษี ถูกเทขายกดราคาลงมาอยู่ที่ 36.75 บาท -2.50 บาท หรือ -6.37%

ตลาดหุ้นปรับตัวลดลงตามต่างประเทศ ดาวโจนส์ฟิวเจอร์สร่วงกว่า 100  จุด หลังผลการเลือกตั้งสว.พรรคเดโมแครตมีคะแนนนำ

บริษัหลักทรัพย์โนมูระ พัฒนสิน มองผลกระทบในระยะสั้น ตลาดค่อนข้างกังวลต่อกรณีเดโมแครตชนะ จะทำให้ความเสี่ยงด้านนโยบายการปรับขึ้นภาษีนิติบุคคลเพิ่มขึ้น (21% สู่ 24-28%) จะกดดันสินทรัพย์เสี่ยงปรับฐานก่อนในภาพแรก โดยกรณีขึ้นภาษีอาจกระทบหุ้นไทยที่มีฐานใน US เช่น IVL และหุ้น TU (ฐานการผลิตราว 10%)

ส่วนผลกระทบในระยะกลาง-ยาว บล.โนมูระ พัฒนสิน ประเมินการได้มาของสว.เดโมแครต อีก 2 เสียง จะทำให้การขึ้นภาษีเป็นไปได้น้อย แต่จะหนุนนโยบายทางการคลังที่มากขึ้นมากกว่าซึ่งทำให้เศรษฐกิจสหรัฐฯระยะยาวมี Upside จากการใช้นโยบายการคลังที่มีประสิทธิภาพ โดยรวมทีมกลยุทธ์มองระยะกลาง-ยาว กระแสเงินจะยังคงไหลเข้า EM-ASIA ต่อเนื่อง

ด้านบล.หยวนต้า (ประเทศไทย) มองกรณีดังกล่าวอาจเกิด Scenario “Blue wave” ส่งผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ มีโอกาสพักฐาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหุ้นกลุ่ม Tech ที่ขึ้นมามาก

นอกจากนี้คาดว่า IVL ได้รับผลกระทบเชิงลบ ใน Scenario “Blue Wave” เนื่องจากมีฐานการผลิตในสหรัฐฯ ดังนั้น หากขึ้นภาษี Corporate Tax จะกระทบกำไรบ้าง โดย IVL มีสัดส่วน EBITDA จากสหรัฐฯ ราว 30-40%

นักวิเคราะห์ บล.เมย์แบงก์กิมเอ็ง (ประเทศไทย ) กล่าวว่า ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ ปรับตัวขึ้นด้วยเงินต่างชาติที่ไหลเข้ามา ท่ามกลางตัวเลขผู้ติดโควิด-19 จำนวนมาก ดัชนี ที่ขึ้นไปทำนิวไฮ 1,513 จุด เปราะบาง เมื่อยืนไม่ได้ จึงถูกขายทำกำไรออกมา

ประกอบกับ เงินลงทุนต่างชาติ ไม่ได้ขายหุ้นไปไหน แต่ชะลอการลงทุน เพื่อรอความชัดเจนการเลือกตั้ง วุฒิสภาของสหรัฐ  บนความคาดหวังว่า พรรคเดโมแครต ของโจ ไบเดน จะคุมเสียงได้ทั้ง 3 สภา  สร้างปรากฎการณ์ Blue wave ซึ่ง โจ ไบเดน จะเข้าทำเนียบขาวอย่างเป็นทางการ 20 ม.ค.นี้

สำหรับผลของ Blue wave ทำให้การบริหารงานของ โจ ไบเดน ง่ายขึ้น จากการคุมทุกสภา แนวนโยบายการขึ้นภาษีบริษัท ลดความเหลื่อมล้ำ ทำให้บริษัทกำไรลดลง

“ นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของโจ ไบเดน  จากผลกระทบโควิด จะใช้นโยบายขาดดุลทางการคลังต่อไป และเป็นการขาดดุลที่มากขึ้น ฉุดเงินดอลลาร์อ่อนตัวลง จะเกิดผลดีกับตลาดหุ้นเกิดใหม่ เงินจะไหลเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทยมากขึ้น ทุกคนอยากเห็น บลูเวฟ และหากไม่เกิดบลูเวฟ ค่าเงินสหรัฐ ยังอ่อนค่าไปอีกนานจากการใช้นโยบายขาดดุลการคลัง “ นักวิเคราะห์กล่าว