HoonSmart.com>>”วายแอลจี” เผยทองพุ่งรับศักราชใหม่ปีฉลู เทรนด์ขาขึ้นชัดเจนทั้งระยะกลาง-ระยะยาว มีลุ้นแตะ 2,000 ดอลลาร์ ได้ดอลลาร์สหรัฐอ่อน-โควิดยังน่าห่วง กองทุน SPDR เริ่มกลับเข้าซื้อ ส่งสัญญาณตลาดสดใส
นางพวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (YLG) ผู้นำเข้าและส่งออกทองคำแท่งรายใหญ่ของไทย เปิดเผยว่า ตลาดทองคำเปิดซื้อขายเต็มรูปแบบในปี 2564 เคลื่อนไหวในแดนบวก และสามารถผ่านยืนเหนือ 1,900 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ได้อย่างแข็งแกร่ง ส่งผลให้แนวโน้มระยะกลางสดใส หลังราคาทะลุกรอบไซด์เวย์ดาวน์ ที่ดำเนินมาเป็นเวลา 5 เดือน ส่วนระยะยาวนั้นยังคงเป็นขาขึ้นต่อไป กองทุน SPDR ได้กลับเข้ามาซื้อเข้าพอร์ตจึงเป็นสัญญาณที่ดีต่อตลาดทองคำ
ในช่วงนี้ราคาปรับตัวขึ้นมาจาก 2 ปัจจัยหลัก ได้แก่ จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจทั่วโลก ล่าสุด ประธานาธิบดี โดนัล ทรัมป์ ได้ลงนามอนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่มูลค่า 9 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ และคาดว่ารัฐบาลของประธานาธิบดี โจ ไบเดน ก็น่าจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบที่ 3 เช่นกัน
ส่วนปัจจัยที่ 2 ที่ส่งผลให้ราคาทองคำขยับขึ้นมาอย่างมีนัยสำคัญคือการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากค่าเงินปอนด์ที่แข็งค่าหลังจากที่อังกฤษและสหภาพยุโรปสามารถตกลงมาตรการด้านการค้าลุล่วงจากกรณี BREXIT และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐส่งผลต่อเงินเฟ้อสูงขึ้น ทองคำจึงเป็นทางเลือกในการป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อที่ดี
ทั้งนี้เมื่อปี 2563 เงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง 7% ส่งผลให้ราคาทองคำเพิ่มขึ้น 25% โดยในปีนี้นักวิเคราะห์ต่างประเทศยังคาดว่าเงินดอลลาร์สหรัฐจะอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นปัจจัยบวกต่อทองคำ อีกทั้งธนาคารกลางหลายประเทศได้ลดสัดส่วนการถือครองเงินดอลลาร์สหรัฐ และได้หันไปถือครองเงินสกุลอื่นรวมถึงทองคำเพิ่มขึ้น
“คาดทองคำยังเป็นขาขึ้นอีก 1-2 ปี เพราะอัตราดอกเบี้ยจะยังอยู่ในระดับต่ำถึงปี 2566 ในช่วงนี้ แม้ทิศทางจะเป็นขาขึ้น แต่อาจจะมีการขายทำกำไรออกมา นักลงทุนทยอยเข้าซื้อสะสมได้ แต่เน้นทำกำไรระยะสั้นเป็นรอบๆ จับตาแนวต้านสำคัญบริเวณ 1,965 ดอลลาร์สหรัฐ หากผ่านได้จะเพิ่มโอกาสที่ราคาจะแตะ 2,000 ดอลลาร์สหรัฐ สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สามารถเข้าซื้อเมื่อย่อตัวที่แนวรับ 1,921 ดอลลาร์สหรัฐ โดยกำหนดจุดตัดขาดทุนไว้ในบริเวณ 1,907 ดอลลาร์สหรัฐ”นางพวรรณ์ กล่าว