แบงก์! ต้องซื้อ กำไรเด้งปี 64 BBL-KBANK-KKP เด่น

HoonSmart.com>>แนะนักลงทุนมองหุ้นแบงก์ข้ามช็อต กำไรปี 64 ฟื้น ช่วงสั้นรับผลกระทบโควิด-19 ระบาดรอบใหม่ รัฐบาลกำลังหาทางช่วยเหลือ พักชำระหนี้ บล.เคทีบีเชียร์ BBL ให้เป้า 150 บาท KBANK  130 บาท ส่วนบล.หยวนต้า แนะ BBL ตีมูลค่า  151 บาท KKP 64 บาท 

วันที่ 4 ม.ค. 2564 ตลาดหุ้นไทยเปิดการซื้อขายหุ้นวันแรกของปี  ราคาหุ้นธนาคารพาณิชย์ปรับตัวลง เพราะได้รับผลกระทบโดยตรงจากการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 รอบใหม่ จากการมีหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(NPLs) เพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันสินเชื่อจะหดตัวจากกรณีที่ธนาคารเพิ่มความระมัดระวังการปล่อยสินเชื่อ ธุรกิจชะลอการลงทุน และประชาชนลดการก่อหนี้ หากสถานการณ์ระบาดยืดเยื้อจะผลต่อกำไรในไตรมาส 1/2564 อย่างไรก็ตาม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวว่า ขณะนี้รัฐบาลกำลังหามาตรการช่วยเหลือผลกระทบด้านเศรษฐกิจ ซึ่งการพักชำระหนี้ก็เป็นแนวคิดหนึ่ง แต่ก็จะต้องมีวิธีการหาเงินมาใช้ด้วย

บล.เคทีบี (ประเทศไทย) ออกบทวิเคราะห์ยังคงให้น้ำหนักหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์มากกว่าตลาด คาดกำไรสุทธิรวมไตรมาส 4/2563 จะอยู่ที่ 2.2 หมื่นล้านบาท ลดลง 40% ฐานกำไรที่สูงในช่วงเดียวกันปีก่อน จากการขายเงินลงทุนจำนวนมากก่อนที่จะเริ่มใช้ TFRS9 และกำไรที่ลดลง -8%จากไตรมาสที่ 3  ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้นตามฤดูกาล โดยธนาคารกรุงเทพ( BBL) เป็นเพียงธนาคารเดียวที่เติบโตจากไตรมาสที่ 3 เพราะมีค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นครั้งเดียวจากธนาคารเพอร์มาตา จำนวน 4 พันล้านบาท

ภาพรวมไตรมาส 4 สินเชื่อทรงตัว หรือ +5% จากไตรมาส 3 เพราะลูกหนี้เริ่มทยอยคืนหนี้หลังหมดมาตรการ สินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้มีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 3.65% จาก 3.32% โดยเป็นการทยอยปรับตัวเพิ่มขึ้นหลังจากที่หมดมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ และแต่ละธนาคารไม่มีการขายหนี้ออกมาเพราะราคาตลาดปรับตัวลดลงมาก

ส่วนแนวโน้มปี 2564 คาดว่ากำไรสุทธิของกลุ่มฯจะพลิกกลับมาเติบโตได้ +7% โดย BBL จะเติบโตได้โดดเด่นที่สุด +14% จากสำรองฯที่ลดลงเป็นหลัก แต่คาดว่า NPLs จะทยอยเร่งตัวเพิ่มขึ้นอีก 4.45%

ด้านราคาหุ้นกลุ่มธนาคารมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นและดีกว่าตลาดหุ้นรวม +18% ใน 3 เดือนที่ผ่านมา เพราะกระแสเงินทุนที่ไหลเข้ามาจากมูลค่าที่ลงไปต่ำสุดในรอบ 15 ปีที่ 0.4 เท่า โดยชอบ BBLแนะนำซื้อ ให้เป้าหมาย 150 บาท จากความแข็งแกร่งด้านงบดุลและมีความเสี่ยงต่ำ และธนาคารกสิกรไทย ( KBANK) ราคาเป้าหมาย 130 บาท จาก Valuation ที่ยังน่าสนใจ โดยปัจจุบันยังซื้อขายที่ระดับ 0.6 เท่า ของมูลค่าหุ้นตามบัญชี

“เรายังคงน้ำหนักการลงทุนกลุ่มธนาคารเป็นมากกว่าตลาด โดยปัจจุบัน Valuation เทรดที่ระดับเพียง 0.65 เท่า จากจุดต่ำสุดที่ 0.4 เท่า ขณะที่มีโอกาสเพิ่มจากสำรองฯที่อาจลดลงได้หากเศรษฐกิจฟื้นกลับมาได้เร็ว แต่มีความเสี่ยงด้าน NPLs ที่จะปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าคาดได้หากสถานการณ์ โควิด-19 แย่ลง โดยชอบหุ้นในกลุ่มธนาคารขนาดใหญ่มากกว่าธนาคารขนาดเล็ก เพราะ มูลค่าที่ถูกกว่า โดยยังคงเลือก BBL เป็น Top pick ราคาเป้าหมายที่ 150 บาท และชอบ KBANK ราคาเป้าหมายที่ 130 บาท หากวัคซีนมา KBANK น่าจะฟื้นตัวได้เร็วที่สุดเพราะมีสัดส่วนสินเชื่อที่อิงกับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวถึง 20% “บล.เคทีบีระบุ

บล.หยวนต้า(ประเทศไทย) คงน้ำหนักกลุ่มธนาคารมากกว่าตลาด คาดกำไรไตรมาส 4 ดีขึ้น 19.6% จากไตรมาส 3 และมีโอกาสฟื้นตัวได้ดีในปี 2564 สำรองลดลงและค่าธรรมเนียมที่เพิ่มขึ้น ของแบงก์ภายใต้ Coverage ทั้ง 7 แห่ง

หุ้น Top Pick แนะนำ BBL ให้ราคาเป้าหมาย 151 บาท กำไรปี 2564 คาดกำไรฟื้นตัวเด่นจากฐานต่ำ และเริ่มรับรู้กำไรจากเพอร์มาตาเต็มปี และ ธนาคารเกียรตินาคิน ภัทร ( KKP) มูลค่าเหมาะสม 64 บาท รักษา Momentum การโตของสินเชื่อได้ดี ปี 2564 คาดรายได้ฝั่งตลาดทุนฟื้นตัว และมีจุดเด่นที่เงินปันผลสูงสุดในกลุ่มคาดอัตราผลตอบแทน 7.3% ปี 2563