ไทยออยล์คาดราคาน้ำมันปีนี้ 45-55 เหรียญ ใช้เพิ่มขึ้นแข่งปริมาณผลิตมาก

HoonSmart.com>>”ไทยออยล์”คาดราคาน้ำมันดิบดูไบเฉลี่ย 45 – 55 เหรียญสหรัฐฯปีนี้ เพิ่มจากเฉลี่ย 42.2 เหรียญสหรัฐฯในปีก่อน ความต้องการใช้ขยายตัว 5.8 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากเศรษฐกิจโลกฟื้นตัว แต่ถูกกดดันจากอุปทานที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น

บริษัทไทยออยล์ (TOP) คาดการณ์ในปี 2564 ราคาน้ำมันดิบดูไบเฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 45 – 55 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล เพิ่มจากเฉลี่ย 42.2 เหรียญสหรัฐฯในปี 2563 ตลาดคาดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 มีแนวโน้มคลี่คลาย และกิจกรรมทางเศรษฐกิจมีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้น ส่งผลให้อุปสงค์น้ำมันโลกมีแนวโน้มขยายตัวที่ 5.8 ล้านบาร์เรลต่อวัน (สำนักงานพลังงานสากล-IEA รายงาน ณ เดือนธ.ค.63) ตามการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกที่ 5.2% (กองทุนการเงินระหว่างประเทศ-IMF รายงาน ณ เดือนต.ค.63) โดยเศรษฐกิจโลกที่จะฟื้นตัวมาจากการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านทั้งนโยบายการคลังและนโยบายการเงิน

อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันดิบยังถูกกดดันจากอุปทานน้ำมันดิบที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น เนื่องจากกลุ่มโอเปกและประเทศพันธมิตรลดกำลังการผลิตน้อย เมื่อวันที่ 3 – 4 ธ.ค. 2563 มีข้อตกลงปรับลดการผลิตจาก 7.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในช่วงเดือนส.ค.-ธ.ค.อยู่ที่ 7.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในเดือนม.ค. 2564 และมีแผนการประชุมรายเดือนต่อไปเพื่อพิจารณาลดกำลังการผลิตตามความต้องการใช้น้ำมันที่ฟื้นตัว ขณะที่อุปทานน้ำมันจากประเทศนอกกลุ่มโอเปก เช่น ประเทศนอร์เวย์และบราซิล มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นราว 0.53 ล้านบาร์เรลต่อวัน เช่นกัน

ส่วนสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบปี 2563 เฉลี่ยที่ระดับ 42.2 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ลดลงจากราคาเฉลี่ยในปี 2562 ที่ระดับ 64 เหรียญสหรัฐฯ เนื่องจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้เศรษฐกิจหลายประเทศเข้าสู่สภาวะถดถอย โดยกองทุนการเงินระหว่างประเทศ คาดเศรษฐกิจโลกปี 2563 หดตัวที่ 4.4% ต่ำกว่าในช่วงเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ทั่วโลก (The Great Depression) ในปี 2473 ที่เศรษฐกิจโลกหดตัว 4.3% โดยเศรษฐกิจที่อ่อนแอส่งผลกระทบโดยตรงต่อความต้องการใช้น้ำมันโลก IEA คาดความต้องการใช้น้ำมันโลกหดตัวที่ระดับ 8.8 ล้านบาร์เรลต่อวัน เมื่อเทียบกับปี 2562 ที่เติบโตประมาณ 1.0 ล้านบาร์เรลต่อวัน

นอกจากนี้ตลาดยังถูกกดดันจากการปรับเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันดิบของบริษัทน้ำมันแห่งชาติของลิเบีย หลังกลับมาเปิดดำเนินการแหล่งผลิตน้ำมันดิบและท่าส่งออกน้ำมันอีกครั้ง เนื่องจากบรรลุข้อตกลงระหว่างรัฐบาลและกลุ่มผู้ขัดแย้ง โดยปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของลิเบียปรับเพิ่มขึ้นจากระดับ 0.12 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในช่วงเดือนก.พ.-ก.ย. 2563 มาแตะที่ระดับ 1.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในช่วงไตรมาส 4/2563 นอกจากนี้ ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังทั้งบนเรือ (Floating) และบนบก (on shore) อยู่ในระดับสูงมาก โดยปริมาณน้ำมันดิบคงคลังบนบกทั่วโลก ณ เดือนพ.ย.2563 สูงกว่าในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้าถึง 300 ล้านบาร์เรล อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันดิบได้รับแรงหนุนจากการร่วมมือปรับลดกำลังการผลิตของกลุ่มโอเปกและประเทศพันธมิตรที่ระดับ 9.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในช่วงเดือนพ.ค.-ก.ค. และที่ระดับ 7.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในช่วงเดือนส.ค.-ธ.ค. 2563 ซึ่งถือว่าช่วยรักษาสมดุลตลาดน้ำมันไม่ให้อุปทานโลกล้นตลาดมากนัก