HoonSmart.com>> “ศรีตรังโกลฟส์” เริ่มเทรดพาร์ใหม่ 5 ม.ค.นี้ หนุนเพิ่มสภาพคล่องและขยายฐานผู้ลงทุน เตรียมจ่ายปันผลระหว่างกาลทุกไตรมาส ปรับนโยบายปันผลไม่ต่ำกว่า 50% ของกำไรสุทธิจากงบการเงินเฉพาะกิจการ คาดนำหุ้นเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ช่วงไตรมาส 2/64 หวังขยายฐานผู้ถือหุ้นหลากหลาย เอื้อช่องทางระดมทุนในอนาคต
น.ส.จริญญา จิโรจน์กุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ศรีตรังโกลฟส์ (ประเทศไทย) หรือ STGT ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายถุงมือยางธรรมชาติและถุงมือยางไนไตรล์รายใหญ่ของโลก เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 5 ม.ค.2564 เป็นต้นไป บริษัทฯ จะเริ่มซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยที่ราคาพาร์ใหม่ หลังจากได้รับการอนุมัติจากผู้ถือหุ้นอย่างเป็นเอกฉันท์ในที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่1/2563 เมื่อวันที่ 25 ธ.ค.2563 ที่ผ่านมา ให้เปลี่ยนแปลงมูลค่าหุ้นที่ตราไว้ (พาร์) จากเดิมหุ้นละ 1 บาท เป็นมูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ซึ่งจะส่งผลให้หุ้น STGT เพิ่มขึ้นเป็น 2,869.56 ล้านหุ้น จากเดิมอยู่ที่ 1,434.78 ล้านหุ้น และเป็นประโยชน์กับบริษัทฯ และผู้ถือหุ้น
“การเปลี่ยนแปลงมูลค่าหุ้นที่ตราไว้ คาดว่าจะส่งผลดีต่อการเพิ่มสภาพคล่องการซื้อขายหุ้นของบริษัทฯ เนื่องจากนักลงทุนจะใช้เงินลงทุนขั้นต่ำต่อการซื้อหุ้นในแต่ละครั้งลดลง ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่สนใจลงทุนหุ้น STGT และส่งผลดีต่อการเพิ่มจำนวนผู้ถือหุ้น รวมถึงสร้างความสนใจให้แก่นักลงทุนสถาบันต่างประเทศที่พิจารณาสภาพคล่องการซื้อขายหุ้นของแต่ละบริษัทเป็นหนึ่งในเกณฑ์การตัดสินใจเพื่อเข้าลงทุน”น.ส.จริญญา กล่าว
นอกจากนี้ ยังจะทำให้ราคาหุ้นของบริษัทฯ เทียบเคียงได้กับราคาหุ้นของผู้ประกอบการถุงมือยางชั้นนำในประเทศมาเลเซีย ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศมาเลเซีย (KLSE) และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศสิงคโปร์ (SGX) อันจะช่วยเพิ่มความน่าสนใจและดึงดูดนักลงทุนต่างประเทศให้เข้ามาลงทุนในหุ้น STGT ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ทั้งนี้ บริษัทฯ ยังได้เปลี่ยนแปลงนโยบายการจ่ายเงินปันผลแก่ผู้ถือหุ้นเป็นไม่น้อยกว่า 50% ของกำไรสุทธิตามงบการเงินเฉพาะกิจการ จากเดิมไม่น้อยกว่า 30% ของกำไรสุทธิตามงบการเงินเฉพาะกิจการ และในปี 2564 มีนโยบายจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลทุกไตรมาสในเดือนมิ.ย., ก.ย.และธ.ค. อย่างไรก็ตามคณะกรรมการบริษัทฯ อาจทบทวนนโยบายจ่ายเงินปันผลได้ตามที่เห็นสมควร
ส่วนการนำหุ้น STGT เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศสิงคโปร์ (Secondary Listing by way of Introduction) บนกระดานหลัก (Main Board) ปัจจุบันอยู่ระหว่างการยื่นเอกสารเพื่อพิจารณา คาดว่าจะทำการซื้อขายหุ้นได้ในช่วงไตรมาส 2/2564 โดยไม่มีการออกและเสนอขายหุ้นใหม่ แต่เป็นการนำหุ้นเดิมบางส่วนเข้าทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศสิงคโปร์ ซึ่งจะอำนวยให้เกิดการขยายฐานผู้ถือหุ้นที่หลากหลาย สร้างชื่อเสียงบริษัทฯ ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น รวมถึงใช้เป็นช่องทางระดมทุนเพิ่มเติมในอนาคตได้
ด้านบล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) ระบุว่า การเปลี่ยนแปลงพาร์หุ้น STGT ส่งผลให้ราคาหุ้นพื้นฐานปรับลงจาก 101 บาท เป็น 50.50 บาท ส่วนความมั่งคั่งผู้ถือหุ้นไม่เปลี่ยนแปลง เพราะจำนวนหุ้นจะเพิ่มขึ้นเท่าตัว ทั้งนี้คาดว่าความต้องการใช้ถุงมือยางยงัคงสูงต่อเนื่องในปี 64-65 แม้ว่าจะเริ่มทยอยใช้วัคซีนโควิด-19 กัน แต่กว่าจะได้ฉีดวัคซีนครบกันทั่วโลกก็จะเป็นปี 65 สำหรับบริษัทมีการเพิ่มกำลังการผลิตอีก 15% ในปี 64 และปรับราคาขายขึ้นได้อย่างมีนัยสำคัญด้วย ทำให้ประมาณการกำไรสุทธิจะเติบโตต่อแข็งแกร่ง +49% จากงวดปีก่อน