HoonSmart.com>>ปตท.สผ.ประเดิมต่อยอด-สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับธุรกิจสำรวจและผลิต ได้สิทธิ์พัฒนาโรงไฟฟ้า-แหล่งก๊าซธรรมชาติ เมียนมา ขนาด 600 MW ลงทุน 2 พันล้านเหรียญ สัญญาซื้อขายไฟ 20 ปี ต่อ 5 ปี ขอเวลาศึกษาก่อน คาดตัดสินใจลงทุนขั้นสุดท้าย ภายในปี 2565
นาย พงศธร ทวีสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) หรือ ปตท.สผ. แจ้งว่า บริษัทได้รับอนุมัติสิทธิ์การพัฒนาโครงการผลิตไฟฟ้าจากก๊าซธรรมชาติในเมียนมาและลงนามในหนังสืออนุญาตให้เริ่มดำเนินงานกับกระทรวงไฟฟ้าและพลังงานเมียนมา เมื่อวันที่ 30 ธ.ค. 2563
โครงการผลิตไฟฟ้าจากก๊าซธรรมชาติในเมียนมาเป็นการลงทุนด้านพลังงานแบบครบวงจรตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงการผลิตกระแสไฟฟ้า ประกอบด้วย การสำรวจและการพัฒนาแหล่งผลิตปิโตรเลียม ธุรกิจโรงไฟฟ้าจากก๊าซธรรมชาติ โครงข่ายระบบท่อส่งก๊าซ ซึ่งจะช่วยเพิ่มความมั่นคงด้านพลังงานแก่ประเทศเมียนมา โครงการนี้ นับเป็นก้าวแรกที่สำคัญของ ปตท.สผ. ที่เป็นการต่อยอดและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับธุรกิจสำรวจและผลิต ซึ่งสอดคล้องกับแผนกลยุทธ์เพื่อความยั่งยืนในระยะยาวของบริษัท
โครงการดังกล่าวมีมูลค่าการลงทุนประมาณ 2 พันล้านเหรียญสหรัฐ ในการพัฒนาแหล่งก๊าซธรรมชาติ โรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วม (Combined Cycle) ขนาดกำลังการผลิต 600 เมกะวัตต์ (MW) ในเขตไจลัท ภูมิภาคอิรวดี และระบบท่อขนส่งก๊าซฯ ทั้งนอกชายฝั่งและบนบกจากเมืองกันบก-เมืองดอร์เนียน-เมืองไจลัท รวมระยะทางประมาณ 370 กิโลเมตร และการวางระบบสายส่งไฟฟ้าแรงสูงจาก เขตไจลัท ไปยัง เขตลานทายา ในภูมิภาคย่างกุ้ง
โรงไฟฟ้าดังกล่าวจะใช้ก๊าซจากแหล่งก๊าซธรรมชาติที่ ปตท.สผ. มีการลงทุนอยู่แล้ว ได้แก่ โครงการซอติก้า และโครงการเมียนมา เอ็ม 3 โดยกระแสไฟฟ้าที่ผลิตได้ จะจำหน่ายให้กับหน่วยงานด้านไฟฟ้าของประเทศเมียนมา ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจภายใต้ MOEE โดยสัญญาซื้อขายก๊าซฯ มีระยะเวลา 20 ปี และสามารถต่ออายุสัญญาได้ 5 ปี นับจากวันเริ่มขายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD)
ปตท.สผ. คาดว่าจะสามารถประกาศการตัดสินใจลงทุนขั้นสุดท้าย (FID) ของโครงการได้ภายในปี 2565 กำลังการผลิตไฟฟ้าจากโครงการนี้จะสามารถรองรับความต้องการใช้ไฟฟ้าคิดเป็นสัดส่วน 10% ของกำลังการผลิตไฟฟ้ารวมในประเทศเมียนมา