ดาวโจนส์ปิดบวกกว่า 100 จุด คาดเศรษฐกิจฟื้นตัว

HoonSmart.com>> ดาวโจนส์ปิดบวกกว่า 100 จุด คาดเศรษฐกิจฟื้นตัวหลังเริ่มฉีดวัคซีน ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง ตลาดหุ้นยุโรปขึ้นยกแผง ราคาน้ำมันดิบเพิ่มกว่า 2%

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) ปิดตลาดวันที่ 23 ธันวาคม 2563 ที่ 30,129.83 จุด เพิ่มขึ้น 114.32 จุด หรือ 0.38% นักลงทุนคาดหวังว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวจากวิกฤติสุขภาพหลังจากมีการเริ่มฉีดวัคซีน ขณะที่การยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกที่ลดลง แม้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ขู่จะไม่ลงนามในร่างกฎหมายเยียวยาผลกระทบไวรัส

ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,690.01 จุด เพิ่มขึ้น 2.75 จุด, +0.07%

ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 12,771.11 จุด ลดลง 36.81 จุด, -0.29%

หุ้นกลุ่มวัฏจักร ซึ่งเกี่ยวข้องกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ปรับตัวขึ้นหนุนตลาด ทั้งกลุ่มพลังงานที่เพิ่มขึ้น 2.2% และกลุ่มการเงินที่เพิ่มขึ้น1.6%

โดย หุ้นเอ็กซอน โมบิล เพิ่มขึ้น 1.29% หุ้นเชฟรอน พุ่งขึ้น 1.6% หุ้นฮัลลิเบอร์ตัน พุ่งขึ้น 1.99% หุ้นเจพีมอร์แกน เชส เพิ่มขึ้น 2.84% หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา เพิ่มขึ้น 2.8% หุ้นซิตี้กรุ๊ป เพิ่มขึ้น 2.56% หุ้นโกลด์แมน แซคส์ เพิ่มขึ้น 2.54% หุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ เพิ่มขึ้น 2.36%

เมื่อวานนี้ไฟเซอร์ประกาศว่าจะจัดส่งวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ให้กับรัฐบาลสหรัฐเพิ่มเติมอีก 100 ล้านโดสภายในเดือนกรกฎาคมปีหน้า รวมแล้ว รัฐบาลสหรัฐได้รับวัคซีนจากไฟเซอร์รวมทั้งหมด 200 ล้านโดส หุ้นไฟเซอร์เพิ่มขึ้น 1.9%

จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสรายใหม่เพิ่มขึ้นมาที่ 3,239 รายในวันอังคาร เป็นการเพิ่มขึ้นรายวันสูงสุดวันที่สาม และมีผู้เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเพิ่มขึ้น 2,426 ราย

กระทรวงแรงงานเผย การยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในสัปดาห์ที่แล้ว ลดลงสู่ระดับ 803,000 ราย จากระดับ 892,000 รายในสัปดาห์ก่อนหน้าและต่ำกว่า 885,000 ราย ที่นักวิเคราะห์คาด

ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากความคาดหวังว่า จะมีการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจได้ แต่ช่วงท้ายตลาดอ่อนตัว หลังจากประธานาธิบดีทรัมป์วีโต้งบประมาณด้านการทหาร และขู่ว่าจะไม่ลงนามในร่างกฎหมายเยียวยาชุดใหม่ โดยอ้างว่าต้องการให้มาตรการครอบคลุมการจำกัดบริษัทโซเชียลมีเดียที่มีทัศนคติไม่ดีกับเขาและต้องการให้เพิ่มจำนวนเงินในเช็คเงินสดที่จะแจกจ่ายให้กับชาวอเมริกันจาก 600 ดอลลาร์ เป็น 2,000 ดอลลาร์

กระทรวงพาณิชย์รายงาน ยอดขายบ้านใหม่เดือนพฤศิกายนลดลง 11.0% สู่ระดับ 841,000 ยูนิต ต่ำกว่า 995,000 ยูนิตที่นักวิเคราะห์คาด

ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนพฤศจิกายน เช่น เครื่องบิน รถยนต์ และเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป เพิ่มขึ้น 0.9%.

มหาวิทยาลัยมิชิแกนเผยผลสำรวจ ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคเดือนธันวาคมเพิ่มขึ้นมาสู่ระดับ 80.7 จากระดับ 76.9 ในเดือนก่อนหน้าแต่ต่ำกว่าระดับ 81.3ที่นักวิเคราะห์คาด

ตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปรับตัวเพิ่มขึ้น นำโดยกลุ่มเดินทางและสันทนาการที่เพิ่มขึ้น 3.67% นักลงทุนหวังว่าอังกฤษและสหภาพยุโรป (EU) จะบรรลุข้อตกลงการค้า และการอนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ซึ่งช่วยคลามกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ต่อเศรษฐกิจโลก

นายมิเชล บาร์นิเยร์ หัวหน้าคณะผู้แทนการเจรจาของสหภาพยุโรปเปิดเผยว่า การเจรจาข้อตกลงการค้าระหว่างอังกฤษและ EU อยู่ในขั้นตอนสุดท้ายแล้ว

ตลาดยังได้แรงหนุนจากการที่ฝรั่งเศสยกเลิกคำสั่งห้ามผู้เดินทางและการขนส่งสินค้าจากอังกฤษเข้าประเทศ หลังที่ประกาศห้ามก่อนหน้านี้

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิด395.49 ที่ จุด เพิ่มขึ้น 4.24 จุด, + 1.08%

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,495.75 จุด เพิ่มขึ้น 42.59 จุด, +0.66%

ดัชนี CAC 40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,527.59 จุด เพิ่มขึ้น 60.73 จุด, +1.11%,

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 13,587.23 จุด เพิ่มขึ้น 169.12 จุด, +1.26%

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ เพิ่มขึ้น 1.10 ดอลลาร์ หรือ 2.3% ปิดที่ 48.12ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์เพิ่มขึ้น 1.12 ดอลลาร์ หรือ 2.2% ปิดที่ 51.20ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

 
อ่านข่าว

ราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นกว่า 2% สต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ ลดลง