ดาวโจนส์ร่วง 44 จุด Nasdaq ทำนิวไฮ เฟดคงดอกเบี้ย

HoonSmart.com>>ดาวโจนส์ปิดลบ 44  จุด ดัชนี Nasdaq ทำนิวไฮ เฟดคงดอกเบี้ย ตัวเลขค้าปลีกลดลงต่อเนื่องเดือนที่ 2 ราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) ปิดตลาดวันที่ 16 ธันวาคม 2563 ที่  30,154.54 จุด ลดลง – 44.77  จุด หรือ 0.15% หลังจากธนาคารกลาง (เฟด) คงอัตราดอกเบี้ย รวมทั้งให้คำมั่นว่าจะสนับสนุนเศรษฐกิจ และจากความคืบหน้าของการเจรจาออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหม่

ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,701.17 จุด เพิ่มขึ้น 6.55 จุด,+0.18%

ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 12,658.19 จุด เพิ่มขึ้น 63.13 จุด, +0.50%

ที่ประชุมคณะนโยบายการเงิน มีมติคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 0.00-0.25% พร้อมให้คำมั่นว่า จะยังคงอัดฉีดเงินเข้าตลาดการเงินต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้เศรษฐกิจถดถอย โดยจะยังคงซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) วงเงินอย่างน้อย 120 พันล้านดอลลาร์ต่อเดือน แบ่งเป็นการซื้อพันธบัตรรัฐบาล 80 พันล้านดอลลาร์ต่อเดือน และซื้อตราสารหนี้ที่มีสินเชื่อที่อยู่อาศัยเป็นหลักประกันการจำนอง (MBS) 40 พันล้านดอลลาร์ต่อเดือน

นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟดกล่าวว่า หากเศรษฐกิจขยายตัวช้า จะเพิ่มวงเงินในการซื้อพันธบัตร ตลาดยังได้รับแรงหนุน จากความคืบหน้าในการเจรจาเพื่อออกมาตรการเยียวยาเศรษฐกิจ ที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสชุดใหม่ หลังจากนายมิทช์ แมคคอนเนลล์ ผู้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภา กล่าวว่า การเจรจาเกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหม่ มีความคืบหน้าและมีมุมมองทางบวกว่า จะทำความเข้าใจทั้งหมดได้ในเร็ว ๆ นี้

แต่นักลงทุนยังกังวลต่อเศรษฐกิจ หลังยอดค้าปลีกเดือนพฤศจิกายนลดลง 1.1% ซึ่งลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 และลดลงมากกว่าการลดลง 0.3% ที่นักวิเคราะห์คาด

ไอเอชเอส มาร์กิต เผย ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้นเดือนธันวาคมลดลงสู่ระดับ 56.5 ต่ำสุดในรอบ 2 เดือน จากระดับ 56.7 ในเดือนพฤศจิกายน ดัชนี PMI ภาคบริการเบื้องต้นลดลงสู่ระดับ 55.3 ต่ำสุดในรอบ 3 เดือน จากระดับ 58.4 ในเดือนก่อนหน้า

นักวิเคราะห์ระบุว่า การที่ข้อมูลเศรษฐกิจชะลอตัวหมายถึงว่า อาจจะมีการปรับลดคาดการณ์จีดีพีไตรมาส 4

หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีเพิ่มขึ้น โดยหุ้นไมโครซอฟท์ เพิ่มขึ้น 2.41% หุ้นแอมะซอน เพิ่มขึ้น 2.4% หุ้นเน็ตฟลิกซ์ เพิ่มขึ้น 0.97% หุ้นอินเทล เพิ่มขึ้น 0.9%

ด้านตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ ปรับตัวเพิ่มขึ้นนำโดยกลุ่มประกันภัยที่เพิ่มขึ้น 2.1% จากสัญญาณความคืบหน้าของการเจรจาข้อตกลงการค้าภายใต้ Brexit ระหว่างอังกฤษและสหภาพยุโรป โดยคาดว่าจะตัดสินใจกันได้ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า

นางเออร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน ประธานคณะกรรมาธิการสหภาพยุโรประบุว่า ประเด็นส่วนใหญ่มีแนวทางที่จะตกลงแล้ว มีเพียงสองประเด็นเท่านั้นที่ยังไม่มีข้อสรุปคือ ความเท่าเทียมในการแข่งขันและการประมง

นักลงทุนยังกังวลต่อการเพิ่มขึ้นของผู้ติดเชื้อไวรัสรายใหม่ ขณะที่เยอรมนี อิตาลี และเนเธอร์แลนด์ ผ่อนคลายมาตรการที่เข้มงวดลง ส่วนอังกฤษอาจะพิจารณาผ่อนปรนเพื่อให้ประชาชนได้ฉลองเทศกลาลคริสต์มาสคลายเริ่มมาตรการล็อกดาวน์เต็มรูปแบบวานนี้

กิจกรรมทางเศรษฐกิจยูโรโซนเดือนธันวาคมดีกว่าคาด แม้ยังหดตัว โดยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (purchasing managers index: PMI) เบื้องต้นโดยรวมเพิ่มขึ้นมาที่ 49.8 จาก 45.3 เดือนพฤศจิกายน

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 396.08 จุด เพิ่มขึ้น  3.24 จุด, +0.82%

ดัชนี FTSE  100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,570.91 จุด เพิ่มขึ้น 57.59 จุด, +0.88%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,547.68 จุด เพิ่มขึ้น 17.37 จุด, +0.31%

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 13,565.98 จุด เพิ่มขึ้น 203.11 จุด, +1.52%

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนมกราคมเพิ่มขึ้น 20 เซนต์ ปิดที่ 47.82 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล  ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์เพิ่มขึ้น  32 เซนต์ปิดที่ 51.08 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล