SCBAM : “FDA ในสหรัฐฯ อนุมัติให้ใช้วัคซีน Pfizer ได้ในกรณีฉุกเฉิน”

• ในสัปดาห์ที่ผ่านมาตลาดหุ้นส่วนใหญ่ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง จากข่าวดีเรื่องความคืบหน้าของการพัฒนาวัคซีน COVID-19 ที่ล่าสุดสรุปผลการประเมินวัคซีนโควิด-19 จากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (FDA) ของสหรัฐฯ อนุมัติให้ใช้วัคซีนไฟเซอร์ในกรณีฉุกเฉิน เนื่องจากวัคซีนของบริษัท Pfizer-BioNtech มีประสิทธิภาพผ่านเกณฑ์และคาดว่ามีโอกาสสามารถเริ่มแจกจ่ายได้ภายในปลายปีนี้ แม้จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ยังอยู่ในระดับที่สูง แต่นักลงทุนให้น้ำหนักกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในระยะข้างหน้ามากกว่า นับเป็นปัจจัยบวกต่อตลาดหุ้นในระยะนี้

• ตัวเลขการส่งออกของจีนในเดือน พ.ย. ขยายตัวดีขึ้น โดยยอดส่งออก (Exports) ในเดือน พ.ย. ปรับตัวขึ้นเป็นระดับ 21.1% YoY จากที่ระดับ 11.4%YoY ในเดือนก่อนหน้า ซึ่งนับเป็นการขยายตัวสูงสุดนับตั้งแต่เดือน ก.พ. 2018 เนื่องจากการปรับตัวดีขึ้นของอุปสงค์สินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับ COVID-19 ไม่ว่าจะเป็นการส่งออกสินค้าจำนพวกอุปกรณ์การแพทย์ อุปกรณ์คอมพิวเตอร์และกลุ่มพลาสติก นอกจากนี้การส่งออกไปประเทศคู่ค้าสำคัญมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นสหรัฐฯ ยุโรป และประเทศแถบ ASEAN

• รัฐบาลญี่ปุ่นเตรียมเผยแผนกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงินเพิ่มเติม โดยนาย Yoshihide Suga นายกฯ ของญี่ปุ่น ระบุว่าจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจก้อนที่ 3 เพิ่มเติม ที่มีมูลค่าถึง 76.3 ล้านล้านเยน ซึ่งแผนการกระตุ้นดังกล่าวน้ีมีจุดมุ่งหมายในการป้องกันการแพร่ระบาดของ COVID-19 เป็นหลัก รวมถึงการกระตุ้นการลงทุนของภาคเอกชนพร้อมทั้งการฟ้ืนฟูเศรษฐกิจในประเทศ

• การฟื้นตัวของตลาดแรงงานของสหรัฐฯ ชะลอลงในเดือนพ.ย. โดยตัวเลขการจ้างงานเพิ่มขึ้นเพียง 2.45 แสนราย ซึ่งเป็นตัวเลขต่ำสุดนับตั้งแต่เดือน เม.ย. 2563 การจ้างงานของธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 ชะลอลงโดยเฉพาะธุรกิจภาคโรงแรมและพักผ่อน รวมถึงภาคการค้าปลีกและการผลิต สะท้อนตลาดแรงงานยังคงอ่อนแอลงท่ามกลางสถานการณ์ COVID-19 ที่ยังคงรุนแรง

• ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติม ในการประชุมวันที่ 10 ธ.ค. ที่ผ่านมา ECB ประกาศเพิ่มวงเงิน PEPP อีก 5.0 แสนล้านยูโร ขึ้นสู่ระดับที่ 1.85 ล้านล้านยูโร และยังขยายระยะเวลาการเข้าซื้อสินทรัพย์ผ่านมาตรการดังกล่าวไปจนถึงมี.ค. 2022 เป็นอย่างน้อย ขณะเดียวกัน ECB ยังขยายระยะเวลาโครงการปล่อยกู้ดอกเบี้ยต ่าออกไปจนถึงเดือน มิ.ย. 2022 โดยจุดประสงค์หลักของ ECB ในการผ่อนคลายนโยบายทางการเงิน คือ เพ่ือลดทอนผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19

คำแนะนำการลงทุนตราสารทุน

ตลาดหุ้นไทย : คงน้ำหนักการลงทุนในหุ้นไทย
ตลาดหุ้นเกาหลี : คงน้ำหนักการลงทุนในหุ้นเกาหลี
ตลาดหุ้นจีน : เพิ่มน้ำหนักการลงทุนในหุ้นจีน A-Shares และหุ้นจีน H-Shares
ตลาดหุ้นยุโรป : คงน้ำหนักการลงทุนในหุ้นยุโรป
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ : คงน้ำหนักการลงทุนในหุ้นสหรัฐฯ
ตลาดหุ้นอินเดีย : คงน้ำหนักการลงทุนในหุ้นอินเดีย