ดาวโจนส์บวก 248 จุด หวังมาตรการกระตุ้นศก.

HoonSmart.com>>หุ้นสหรัฐ 3 ตลาดเพิ่มขึ้น ดาวโจนส์บวก 0.83%  หวังออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจหลังจากตัวเลขการจ้างงานต่ำกว่าที่คาด หุ้นพลังงานพุ่งขึ้น 5.4% ตามราคาน้ำมันดิบ 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) ปิดตลาดวันที่ 4 ธ.ค. 2563 ที่ 30,218.26 จุด เพิ่มขึ้น 248.74 จุด หรือ 0.83% จากความหวังว่าจะมีการเดินหน้าออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหม่หลังจากข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นต่ำกว่าที่คาด รวมทั้งได้รับแรงหนุนจากการปรับขึ้นของกลุ่มน้ำมัน

ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,699.12 จุด เพิ่มขึ้น 32.40 จุด,+0.88%

ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 12,464.23 จุด เพิ่มขึ้น 87.05 จุด, +0.7%

การปรับขึ้นของตลาดเป็นการปรับขึ้นสัปดาห์ที่สี่ในรอบ 5 สัปดาห์ โดยสัปดาห์นี้ดัชนี DJIA เพิ่มขึ้น 1% ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 1.7% และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 2.2%

ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐเพิ่มขึ้นในอัตราต่ำที่สุดนับตั้งแต่ตลาดแรงงานเริ่มฟื้นตัวในเดือนพ.ค. โดยกระทรวงแรงงานเผยการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนพ.ย.เพิ่มขึ้นเพียง 245,000 ตำแหน่ง ต่ำกว่า 440,000 ตำแหน่ง ที่นักวิเคราะห์คาดและต่ำกว่า 610,000 ตำแหน่งในเดือนต.ค. อย่างไรก็ตามอัตราการว่างงานลดลงจาก 6.9% เป็น 6.7%

นักวิเคราะห์จากอัลลิอันซ์ อินเวสเม้นท เมเนจเม้นท์ ระบุว่า ข้อมูลการจ้างงานจะเป็นปัจจัยที่ทำให้สภาดำเนินการเรื่องมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อพยุงเศรษฐกิจในช่วงที่รอวัคซีน

ด้านนายชัค ชูเมอร์ ผู้นำเสียงข้างน้อยวุฒิสมาชิกให้ความเห็นว่า รายงานการจ้างงานแสดงให้เห็นถึงความจำเป็นเร่งด่วนมากกว่าทุกครั้งที่จะต้องออกมาตรการเยียวยา
นายโจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีก็เรียกร้องให้ออกมาตรการ โดยระบุว่า ข้อมูลการจ้างงานจะทำให้หน้าหนาวนี้มืดม่น และจะดีมาก หากประชาชนได้รับเงินเยียวยา 1,200 ดอลลาร์

หุ้นกลุ่มพลังงานพุ่งขึ้น 5.4% จากราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้น หุ้นเชฟรอนเพิ่มขึ้น 3.9% หุ้นแคทเธอพิลลาร์เพิ่มขึ้น 4.3%

นอกจากนี้กระทรวงพาณิชย์เผยคำสั่งซื้อของภาคโรงงานเดือนต.ค.เพิ่มขึ้น 1.0% สูงกว่า 0.8%ที่นักวิเคราะห์คาด แต่ต่ำกว่าที่เพิ่มขึ้น 1.3% ในเดือนก.ย. ส่วนยอดสั่งซื้อสินค้าทุนพื้นฐาน ไม่รวมหมวดอาวุธและเครื่องบินเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 0.8%

การขาดดุลการค้าเดือนต.ค.เพิ่มขึ้น 1.7% เป็น 63.1 พันล้านดอลลาร์ น้อยกว่า 64.8 พันล้านดอลลาร์ที่นักวิเคราะห์คาด โดยการนำเข้าเพิ่มขึ้น 2.1% เป็น 245 พันล้านดอลลาร์ ขณะที่การส่งออกเพิ่มขึ้น 2.2% มีมูลค่า 182 พันล้านดอลลาร์

ตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่เพิ่มขึ้น นำโดยกลุ่มน้ำมันและแก๊สที่เพิ่มขึ้น 3.1% เพราะนักลงทุนคาดว่าการสร้างงานนอกภาคเกษตรที่เพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาด จะทำให้สหรัฐฯจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหม่

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิด 394.04 จุด เพิ่มขึ้น 2.32 จุด , +0.59%

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,550.23 จุด เพิ่มขึ้น 59.96 จุด, +0.92%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,609.15 จุด เพิ่มขึ้น 34.79 จุด, +0.62%

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 13,298.96 จุด เพิ่มขึ้น 46.10 จุด , +0.35%

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนม.ค.เพิ่มขึ้น 62 เซนต์ ปิดที่ 46.26 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนก.พ.เพิ่มขึ้น 54 เซนต์ปิดที่ 49.25 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากกลุ่มโอเปก พลัส หรือกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน และชาติพันธมิตรมีมติปรับลดกำลังการผลิต 7.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน จาก 7.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งจะทำให้มีน้ำมันดิบไหลเข้าสู่ตลาดโลกเพียง 500,000 บาร์เรลต่อวัน โดยจะมีผลตั้งแต่เดือนม.ค.ปีหน้า