ดาวโจนส์ปิดบวก 59 จุด หวังมาตรการกระตุ้นศก. อังกฤษอนุมัติวัคซีนชาติแรก

HoonSmart.com>> ดาวโจนส์ปิดบวก 59 จุด หวังมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ อังกฤษอนุมัติวัคซีนชาติแรกของโลกหนุนหุ้นบวก สวนตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปรับลดลง ราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) ปิดตลาดวันที่ 2 ธันวาคม
2563 ที่ 29,883.79 จุด เพิ่มขึ้น 59.87 จุด หรือ 0.20% นักลงทุนขานรับการพัฒนาวัคซีน และมีความหวังว่าจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหม่ หลังจากข้อมูลการจ้างงานภาคเอกชนเพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่คาดอย่างไรก็ ตามดัชนี S&P 500 ยังคงปิดที่ระดับนิวไฮ ส่วนดัชนี Nasdaq ลดลง

ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 3,669.01 จุด เพิ่มขึ้น 6.56 จุด , +0.18%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 12,349.37 จุด ลดลง 5.74 จุด, -0.05%

ตลาดได้รับแรงหนุนจากข่าวดีการพัฒนาวัคซีนต่อเนื่อง โดยล่าสุดอังกฤษได้อนุมัติให้ใช้วัคซีนโควิด-19 ที่พัฒนาโดยบริษัทไฟเซอร์ที่ร่วมกับ BioNTech
แต่นักลงทุนผิดหวังข้อมูลการจ้างงานภาคเอกชนเดือนพฤศจิกายนที่เพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาด โดยเอดีพีออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) และมูดี้ส์ อนาลิติกส์ เผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชน เพิ่มขึ้นเพียง 307,000 ตำแหน่งต่ำกว่า 4750,000 ตำแหน่งที่นักวิเคราะห์คาด และต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม แต่ได้ ปรับเพิ่มตัวเลขการจ้างงานของภาคเอกชนเดือนตุลาคมเป็น 404,000 ตำแหน่ง จาก 365,000 ตำแหน่ง

นอกจากนี้รายงานแนวโน้มเศรษฐกิจ(Beige Book) ของ ธนาคารกลางระบุว่า เศรษฐกิจใน 4 เขตเศรษฐกิจจาก 12 เขตขยายตัวเล็กน้อยถึงไม่เติบโตในรอบหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา

นักลงทุนมองว่าข่าวร้ายทางเศรษฐกิจจะเร่งให้มีการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ แม้พรรคเดโมแครตและพรรครีพับลิกันยังไม่สามารถตกลงกันได้
นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรและละนายชัค ชูเมอร์ ผู้นำเสียงข้างน้อยในวุฒิสภาออกแถลงการณ์ร่วมว่า ร่างกฎหมายกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 908 พันล้านดอลลาร์ ควรจะใช้เป็นฐานในการเจรจาของทั้งสองฝ่าย ซึ่งการออกแถลงการณ์ส่งผลให้ตลาดปรับตัวดีขึ้นในช่วงท้าย

เงินดอลลารปรับตัวดีขึ้นจากแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบ 2.5 ปี หลังจากนักลงทุนขานรับการอนุมัติใช้วัคซีนต้านไวรัสของอังกฤษ รวมทั้งแนวโน้มที่สหรัฐฯจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหม่ โดยดัชนีดอลลาร์ลดลง 0.17% มาที่ 91.16

ตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปรับตัวลดลง ยกเว้นตลาดหุ้นลอนดอนเพราะอังกฤษที่อนุมัติให้ใช้วัคซีนโควิด-19 ที่พัฒนาโดยบริษัทไฟเซอร์ที่ร่วมกับ BioNTech เป็นชาติแรกของโลกซึ่งจะส่งผลให้มีวัคซีนออกใช้ในสัปดาห์หน้า

ยอดค้าปลีกในเยอรมนีเดือนตุลาคมปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.6% จากเดือนก่อนหน้าและเพิ่มขึ้น 8.2% จากระยะเดียวกันของปีก่อน ซึ่งสูงกว่าที่คาด แต่เป็นข้อมูลก่อนที่ประเทศจะล็อกดาวน์อีกรอบในวันที่ 2 พฤศจิกายน

ขณะเดียวกันนักลงทุนรอข้อมูลการจ้างงานภาคเอกชนเดือนพฤศจิกายนของสหรัฐฯ
ในอิตาลีอัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นมาที่ 9.8% ในเดือนตุลาคม จาก 9.7%เดือนก่อนหน้า

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 391.69 จุด ลดลง 0.21 จุด , -0.05%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,463.39 จุด เพิ่มขึ้น 78.66 จุด, +1.23%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,583.01 จุด เพิ่มขึ้น 1.37 จุด, +0.03%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 13,313.24 จุด ลดลง 69.06 จุด , -0.52%

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนมกราคมเพิ่มขึ้น 73 เซนต์ ปิดที่ 45.28 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์เพิ่มขึ้น 83 เซนต์ปิดที่ 48.25 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล