ดาวโจนส์ปิดเด้ง 327 จุด รับวัคซีนคืบหน้ารายที่สาม PMI สูงสุดรอบ 6 ปี

HoonSmart.com>> ดาวโจนส์ปิดเด้ง 327 จุด รับวัคซีนคืบหน้ารายที่สาม PMI สูงสุดรอบ 6 ปี ด้านตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปรับลดลง ราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) ปิดตลาดวันที่ 23 พฤศจิกายน 2563 ที่ 29,591.27 จุด เพิ่มขึ้น 327.79 จุด หรือ +1.12% จากข่าวความคืบหน้าการพัฒนาวัคซีนของบริษัทแอสตราเซนเนก้าที่ผลิตร่วมกับมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดที่มีประสิทธิภาพถึง 90% และเป็นบริษัทพัฒนาวัคซีนรายที่สามที่รายงานผลการพัฒนาวัคซีนในรอบเดือนนี้

ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 3,577.59 จุด เพิ่มขึ้น 20.05 จุด, +0.56%

ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,880.63 จุด เพิ่มขึ้น 25.66 จุด, +0.22%

แอสตราเซเนก้าเปิดเผยว่า ผลการทดสอบเบื้องต้นวัคซีนมีค่าเฉลี่ยประสิทธิภาพ 70% แต่หนึ่งโดสมีประสิทธิภาพ 90%

นักวิเคราะ์ระบุว่า การที่วัคซีนของสามบริษัทมีประสิทธิภาพถึง 90% ขึ้นไป และหน่วยงานรัฐทั้งสหภาพยุโปลแะสหรัฐฯต่างเร่งที่จะให้การอนุมัติ กระบวนการผลิตวัคซันน่าจะเริ่มได้ก่อนสิ้นปีนี้ ทำให้กลบความกังวลในช่วงเปลี่ยนผ่านระยะส้นที่ยังมีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้น

จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เฉลี่ยในรอบ 7 วันเพิ่มขึ้น 170,000 ราย ส่วนผู้ติดเชื้อสะสมมีจำนวนกว่า 12 ล้านรายและมีผู้เสียชีวิต 256,803 ราย

ตลาดได้รับแรงหนุนในช่วงท้ายการซื้อขายจากการที่นายโจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีมีแผนที่จะเสนอ นางเจเน็ต เยลเลน อดีตผู้ว่าการ ธนาคารกลาง(่เฟด) เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ซึ่งนักวิเคราะห์ระบุว่า ไม่แปลกใจที่ตลาดตอบรับเพราะเป็นผู้ที่มีประสบการณ์สูง โดยเฉพาะในช่วงที่ทำหน้าที่ผู้ว่าการเฟด ซึ่งจะสามารถรับมือความท้าทายจากผลกระทบของโควิดได้

หุ้นสายการบินและเรือสำราญปรับตัวเพิ่มขึ้น จากความคาดหวังว่าวัคซีนจะทำให้มีการเปิดเศรษฐกิจและกระตุ้นการเดินทางในปีหน้า โดยหุ้นคาร์นิวาลเพิ่มขึ้น 4.8% หุ้นยูไนเต็ดแอร์ไลน์เพิ่มขึ้น 2.6% แต่หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีก็ปรับตัวลดลง โดยหุ้นแอปเปิลลดลงราว 3% หุ้นเน็ตฟลิกซ์ลดลง2.4%

นอกจากนี้ยังได้รับแรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง โดยไอเอชเอส มาร์กิตเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ(Purchasing Managers’ Indexes:PMI)ภาคการผลิตและภาคบริการปรับตัวแตะระดับสูงสุดในรอบหลายปี โดยดัชนี PMI ภาคบริการเพิ่มขึ้นมาที่ 57.7 สูงสูดในรอบกว่า 5 ปี ดัชนี PMI ภาคการผลิตเพิ่มขึ้นมาที่ 56.7 สูงสุดในรอบกว่า 6 ปี

โกลด์แมน แซคส์ปรับประมาณการ GDP ไตรมาสสี่ลงจากจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19ที่เพิ่มขึ้นโดยปรับเป็น 3.5% จาก 4.5% ส่วนไตรมาสแรกปีหน้าคาดว่าจะหดตัวเพียง 1% จาก-3.5%

ตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปรับตัวลดลง แต่กลุ่มน้ำมันและแก๊สเพิ่มขึ้น 3.2% แม้มีข่าวดีการพัฒนาวัคซีนของ บริษัทแอสตราเซนเนก้าที่ผลิตร่วมกับมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดที่มีประสิทธิภาพถึง 90%

ไอเอชเอส มาร์กิตเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ(Purchasing Managers’ Indexes:PMI)ภาคการผลิตและภาคบริการยูโรโซนเดือนพฤศจิกายนต่ำสุดในรอบ 6 เดือน ที่ 45.1

ดัชนีPMI รวม ฝรั่งเศส ลดลงจากการล็อกดาวน์รอบสอง มาที่ 39.9 จาก 47.5 เดือนก่อน ส่วนดัชนีPMI รวม เยอรมนีลดลงมาที่ 52.0 จาก 55.0

ในอังกฤษ นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสันประกาศว่า จะยกเลิกมาตรการล็อกดาวน์นวันที่ 2 ธันวาคม แต่จะเงื่อนไขสำหรับบางพื้นที่

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 388.84 จุด ลดลง 0.77 จุด , -0.20%

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,333.84 จุด ลดลง 17.61 จุด, -0.28

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,492.15 จุด ลดลง 3.74 จุด, -0.068%

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 13,126.97 จุด ลดลง 10.28 จุด ,-0.08%

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนธันวาคมเพิ่มขึ้น 64 เซนต์ปิดที่ 43.06 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนมกราคมเพิ่มขึ้น11.10 ดอลลาร์์ปิดที่ 46.06 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
อ่านข่าว

ดีบีเอสฯ มอง SET แกว่งขึ้นรับวัคซีน ระวังแนวต้าน 1,430-1,440

“คิงส์ฟอร์ด” มองฟันด์โฟลว์หนุน SET ยืน 1,410 จุดมีลุ้นไปต่อ


อ่านข่าว

ดีบีเอสฯ มอง SET แกว่งขึ้นรับวัคซีน ระวังแนวต้าน 1,430-1,440

“คิงส์ฟอร์ด” มองฟันด์โฟลว์หนุน SET ยืน 1,410 จุดมีลุ้นไปต่อ