ตลาดหุ้นสหรัฐ “ดัชนีดาวโจนส์” ดิ่ง 219 จุด นักลงทุนวิตกสงครามการค้ารอบใหม่ ฉุดตลาดหุ้นยุโรปร่วงตาม
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์(Dow Jones Industrial Average) ปิดตลาดวันที่ 11 กรกฎาคมที่ 24,700.45 จุด ลดลง 219.21 จุด หรือ 0.88% หลังจากที่ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องติดต่อกัน 4 วัน นักลงทุนวิตกสงครามการค้าระหว่างสหรัฐกับประเทศคู่ค้าหลักรอบใหม่ หลังจากที่ทำเนียบข่าวประกาศรายการสินค้านำเข้าจากจีนเพิ่มเติมรวมมูลค่า 200 พันล้านดอลลาร์ที่จะต้องถูกเรียกเก็บภาษีในอัตรา 10%
แม้การเก็บเรียกเก็บสินค้าในรายการที่ประกาศยังไม่มีผลในทันที เนื่องจากต้องผ่านกระบวนการพิจารณาในช่วงกลางถึงปลายเดือนสิงหาคมนี้ แต่สร้างความกังวลให้กับตลาดที่อ่อนไหวต่อข่าวเรียกเก็บภาษีใดก็ตามที่เกิดขึ้นในช่วงนี้
นักวิเคราะห์ระบุว่า ผลการดำเนินงานไตรมาสสองที่จะบริษัททยอยประกาศออกมาในช่วงนี้น่าจะสะท้อนผลของมาตรการภาษีได้ชัดเจนขึ้น อย่างไรก็ตามคาดว่าผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งของบริษัทจะเป็นปัจจัยหนุนกลบความกังวลเรื่องความขัดแย้งทางการค้า
หุ้นโบอิ้งลดลง 1.9% หุ้นแคทเธอพิลลาร์ลดลง 3.2% เนื่องจากมีรายได้จากต่างประเทศในสัดส่วนใหญ่ของรายได้รวม
หุ้นผู้ผลิตชิปที่มีธุรกิจในจีนปรับตัวลดลงโดย หุ้น Nvidia ลดลง 2.3% หุ้นอินเทล และหุ้นเอเอ็มดีต่างลดลงมากกว่า 1.5%
หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลง หลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI ลดลง 5% จากข่าวการผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้นของซาอุดิอาระเบีย และข่าวลิเบียเริ่มกลับมาดำเนินการผลิตและส่งออกอีกครั้ง โดยหุ้นเอ็กซอน โมบิล ลดลง 1.3% หุ้นเชฟรอนลดลง 3.2%
ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,774.02 จุด ลดลง 19.82 จุด, -0.71%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,716.61 จุด ลดลง 42.59 จุด, -0.55 %
ทางด้านตลาดยุโรปปิดลบ จากความกังวลต่อผลกระทบของความขัดแย้งทางการค้าหลังจากสหรัฐประกาศรายการสินค้านำเข้าจากจีนที่จะถูกเรียกเก็บภาษีเพิ่มเติมในอัตรา 10% รวมมูลค่า 200 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าความสัมพันธ์สหรัฐกับจีนที่เลวร้ายลง และยังเป็นการส่งสัญญานต่อประเทศอื่นว่าสหรัฐจะเดินหน้าต่อสู้ในทางการค้า
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,591.96 จุด ลดลง 100.08 จุด, -1.30%
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 381.40 จุด ลดลง 4.85 จุด, -1.26 %
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,353.93 จุด ลดลง 80.43 จุด, -1.48%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,417.13 จุด ลดลง 192.72 จุด, -1.53%