TASCO ยันกำไรปีนี้หรู เผยทางแก้น้ำมันเวเนซูเอลา

HoonSmart.com>>”ทิปโก้แอสฟัลท์” เผยปี 63 กำไรยังดี  ไตรมาส 4โตต่อเนื่อง ยอดขายในประเทศ-ต่างประเทศเพิ่มขึ้น  จ่อซื้อน้ำมันดิบ Altenetive Crude ใช้กลั่นเองหรือผสมกับน้ำมันดิบประเทศเวเนฯ คาดใช้งานได้ถึงไตรมาส 2/64 เตรียมเจรจาขอค่าเงินประกันภัยธุรกิจหยุดชะงัก รับเงินเคลมไตรมาส 1/64

นายชัยวัฒน์ ศรีวรรณวัตน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทิปโก้แอสฟัลท์ (TASCO) เปิดเผยว่า บริษัทฯคาดว่าในปี 2563 บริษัทยังมีความสามารถในการทำไรที่ดีอยู่ จากการบริหารจัดการต้นทุนยางมะตอย และมีน้ำมันที่ซื้อไว้ในราคาต่ำ ส่วนไตรมาส 4 จะเติบโตต่อเนื่องจากไตรมาส 3/63 ที่มีกำไรสุทธิ 1,862.39 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 161% จากงวดเดียวกันของปีก่อน แต่ต้องยอมรับว่ารายได้ในปีนี้จะใกล้เคียงกับปีก่อนหน้าที่ 37,626.33 ล้านบาท รวมยอดขายยางมะตอย  1.8 ล้านตัน

“ยอดการใช้ยางมะตอยในประเทศจะกลับมาเป็นช่วงไฮซีซั่น ตั้งแต่อาทิตย์นี้ จนถึงปลายไตรมาส 1/64 จากภาครัฐอนุมัติงบทันตามเวลา ยอดงบสูงขึ้น 6% จากปีก่อน ส่วนต่างประเทศเน้นการขายค้าปลีกในทุกประเทศ เพื่อกำไรที่เพิ่มขึ้น ด้านปัจจัยเสี่ยงกฏเกณฑ์ของ IMO 2020 และโควิด-19 ถ้ามีผลกระทบรุนแรง จะกระทบต่อเราแน่นอน” นายชัยวัฒน์ กล่าว

ส่วนกรณีการหยุดซื้อน้ำมันดิบจากประเทศเวเนซูเอลาในช่วงสิ้นเดือน พ.ย.นี้ บริษัทฯกำลังหาซื้อน้ำมันดิบ Altenetive Crude เข้ามากลั่นเอง หรือผสมกับน้ำมันดิบจากประเทศเวเนซูเอล าเพื่อสามารถกลั่นได้ถึงไตรมาส 2/64 แม้ราคาแพงกว่าราคาเวเนซูเอลาถึง 20% แต่ปัจจุบันยังไม่ได้ซื้อเข้ามา คาดว่าเริ่มในปลายปีนี้หรือต้นเดือน ม.ค.ที่จะถึงนี้ เพื่อรองรับการใช้ในช่วงไตรมาส 2/64

” น้ำมัน Altenetive Crude ตอนกลั่นจะได้ยางมะตอยออกมาประมาณ 50% และน้ำมัน 50% เทียบกับน้ำมันดิบจากเวเนซูเอลาเรากลั่นได้ยางมะตอยประมาณ 70-75% ทำให้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้นประมาณ 20% และต้นทุนก็สูงขึ้นด้วย เราเชื่ออาจจะไม่มีผลกระทบมาก โดยวางแผนการซื้อน้ำมันดิบเข้ามาในช่วง High Working Season เพื่อกำไรที่ดีขึ้น รวมถึงน้ำมันที่กลั่นออกมาได้ เรามีการขายล่วงหน้า เพื่อลดความเสี่ยงจากราคาน้ำมันในตลาดโลกผันผวน” นายชัยวัฒน์ กล่าว

นอกจากนี้บริษัทฯได้ยื่นขอค่าเงินประกันภัยธุรกิจหยุดชะงัก คาดว่าจะสามารถเจรจาหาข้อตกลงได้ในไตรมาส 4 นี้ และจะได้รับเงินประกันในไตรมาส 1/64 จากเหตุเพลิงไหม้บริษัทฯได้รับค่าสินไหมแล้วจะบันทึกลงไตรมาส 4/63 มูลค่า 179 ล้านบาท รวมทั้งหมดประมาณ 772 ล้านบาท