HoonSmart.com>> “การบินไทย” ไตรมาส 3/63 ขาดทุนสุทธิ 2.1 หมื่นล้านบาท รายได้วูบ 91.7% เหลือ 3,727 ล้านบาท จากงวดปีก่อนอยู่ที่ 4.13 หมื่นล้านบาท ฉุด 9 เดือนขาดทุนหนัก 4.9 หมื่นล้านบาท ผู้สอบบัญชีไม่ให้ข้อสรุปงบการเงิน ด้านฐานะการเงินขาดสภาพคล่องหนัก หนี้สินหมุนเวียนสูงกว่าสินทรัพย์หมุนเวียน 2.71 แสนล้านบาท ขาดทุนเกินทุนพุ่งแตะ 3.85 หมื่นล้านบาท ส่วนแผนฟื้นฟูกิจการอยู่ระหว่างจัดทำแผน
บริษัท การบินไทย (THAI) เปิดเผยผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2563 สิ้นสุดวันที่ 30 ก.ย.2563 ขาดทุนสุทธิ 21,536.07 ล้านบาท ขาดทุนต่อหุ้น 9.87 บาท ขาดทุนเพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนมีผลขาดทุนสุทธิ 4,681.50 ล้านบาท ขาดทุนต่อหุ้น 2.14 บาท
งวด 9 เดือน ปี 2563 ขาดทุนสุทธิ 49,552.53 ล้านบาท ขาดทุนต่อหุ้น 22.70 บาท จากงวดเดียวกันของปีก่อนขาดทุนสุทธิ 11,119.87 ล้านบาท ขาดทุนต่อหุ้น 5.09 บาท
บริษัทฯ ชี้แจงว่า ในงวดไตรมาส 3/2563 บริษัทฯ และบริษัทย่อย มีรายได้รวม 3,727 ล้านบาท ต่ำกว่าไตรมาสเดียวกันของปีก่อน 41,289 ล้านบาท หรือ 91.7% สาเหตุสําคัญเนื่องจากรายได้จากการขนส่งผู้โดยสารและสินค้าลดลง 37,654 ล้านบาท หรือ -95.1% รายได้จากการบริการอื่นๆ ลดลง 1,718 ล้านบาท หรือ -56.2% เนื่องจากมาตรการจำกัดการเดินทางระหว่างประเทศทั้งของประเทศไทยและประเทศต่างๆ ที่ยังคงมีอยู่
สำหรับค่าใช้จ่ายรวมมีจำนวน 19,375 ล้านบาท ต่ำกว่างวดปีก่อน 28,483 ล้านบาท หรือ -59.5% สาเหตุหลักเกิดจากค่าใช้จ่ายดําเนินงานที่แปรผันตามปริมาณการผลิตและหรือปริมาณการขนส่งและหรือจํานวนผู้โดยสารลดลงจากปริมาณการผลิตและปริมาณการขนส่งและจํานวนผู้โดยสารที่ลดลง อย่างไรก็ตามค่าใช้จ่ายคงที่ที่อยู่ในระดับสูงทําให้การลดลงของค่าใช้จ่ายไม่เพียงพอที่จะชดเชยรายได้ที่สูญเสียไป ส่งผลให้ขาดทุนจากการดําเนินงาน 15,648 ล้านบาท ขาดทุนเพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 12,806 ล้านบาท หรือ 450.6%
ด้านผู้สอบบัญชีไม่สามารถให้ข้อสรุปต่อข้อมูลทางการเงินระหว่างกาลรวมของบริษัทและบริษัทย่อย เนื่องจาก 1. การขาดสภาพคล่องทางการเงินและการผิดนัดชำระหนี้ 2.ผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ต่อการดำเนินงานของกลุ่มบริษัทและ 3. การเข้าสู่กระบวนการแผนฟื้นฟูกิจการ ซึ่งศาลล้มละลายมีคำสั่งให้ฟื้นฟูกิจการและแต่งตั้งผู้ทำแผนตามที่บริษัทเสนอ ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างจัดทำแผนฟื้นฟูกิจการเพื่อขออนุมัติจากเจ้าหนี้ ทั้งนี้ความสามารถในการดำเนินงานต่อเนื่องบริษัทมีองค์ประกอบในการบริหารธุรกิจหลายด้าน รวมถึงการพิจารณาลงมติยอมรับแผนฟื้นฟูกิจการของเจ้าหนี้ ความสำเร็จในการดำเนินการตามแผนและความสามารถในการประกอบธุรกิจต่อไป
ณ วันที่ 30 ก.ย.2563 บริษัทมีหนี้สินหมุนเวียนสูงกว่าสินทรัพย์หมุนเวียนอย่างมีนัยสำคัญจำนวน 274,428 ล้านบาทและมีผลขาดทุนเกินทุนจำนวน 40,023 ล้านบาทในงบการเงินรวมและบริษัทมีหนี้สินหมุนเวียนสูงกว่าสินทรัพย์หมุนเวียนจำนวน 271,305 ล้านบาทและมีผลขาดทุนเกินทุนจำนวน 38,555 ล้านบาท โดยกลุ่มบริษัทมีผลขาดทุนจากการดำเนินงานตั้งแต่ปี 2556 ส่งผลให้กลุ่มบริษัทและบริษัทมีผลขาดทุนเกินทุนและขาดสภาพคล่องทางการเงิน