SABUY สัญญารายได้โตทุกปี 20% ชวนลงทุนยาว รับปันผล

HoonSmart.com>>”สบาย เทคโนโลยี” ตั้งเป้ารายได้แต่ละปีโต 20%  9เดือนขยายตัว 21%   มั่นใจไตรมาส 4 ไปต่อ เตรียมนำเงินIPO ขยายธุรกิจ เพิ่มตู้อัตโนมัติอีก 8-9 พันตู้ จากเดิมมีเกือบ 6 หมื่นตู้ ปั้นรายได้เกือบ 95% อยากให้นักลงทุนมองการลงทุนหุ้นระยะกลาง-ยาว มั่นใจผลงาน-ปันผลดี

นายชูเกียรติ รุจนพรพจี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สบาย เทคโนโลยี (SABUY) เปิดเผยว่า บริษัทฯตั้งเป้ารายได้ปี 2564 เติบโต  20% ซึ่งจะเป็นเป้าหมายการเติบโตในทุกๆปีของบริษัท โดยในไตรมาส 4/63 คาดว่าจะเติบโตต่อเนื่อง  จากการที่มีสินค้าหลากหลายและแบรนด์ใหม่มากขึ้น รวมถึงธุรกิจติดตั้งและวางระบบศูนย์อาหาร หลังจากงวด 9 เดือน มีรายได้จากการขายและให้บริการ 1,076.98 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21.79% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

“เราพยายามจะทำให้ได้ตามเป้าที่วางไว้ รายได้เติบโต20% ต่อเนื่องไปในทุกๆ  ส่วนกำไรสุทธิ 9 เดือนเราเติบโตกว่า 35% สะท้อนให้เห็นศักยภาพของธุรกิจ เน้นการปรับโมเดลการใช้งาน และตอบสนองการใช้งานของลูกค้าให้ตรงตามเทรน” นายชูเกียรติ กล่าว

ส่วนการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนแก่ประชาชนครั้งแรก (IPO)  บริษัทจะนำเงินไปใช้ในการขยายตู้อัตโนมัติ ในปี 64 เพิ่มอีก 4,000 ตู้ จากปัจจุบันมี 53,000 ตู้ สัดส่วนรายได้ประมาณ 60% ใช้ขยายตู้ขายสินค้าอีกประมาณ 4,000-5,000 ตู้ จากปัจจุบันมี 6,000 ตู้ สัดส่วนรายได้ประมาณ 35% และอีก 5% เป็นรายได้จากธุรกิจติดตั้งและวางระบบศูนย์อาหาร ซึ่งจะใช้เงินในการขยายธุรกิจติดตั้งและวางระบบศูนย์อาหารด้วย

นายชูเกียรติ กล่าวทิ้งท้ายว่าราคาหุ้น SABUY วันแรก(11 พ.ย.) เปิดเท่าจองที่ 2.50 บาทนั้น อยากให้นักลงทุนมองการลงทุนระยะกลาง-ยาว ด้วยพื้นฐานการเติบโต ทั้งรายได้และกำไร เชื่อว่าผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนที่ดี จากสิ่งที่บริษัทฯกำลังสร้างให้เกิดขึ้นจริงในอนาคต

ด้านนายรัฐชัย ธีระธนาวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม สายงานวาณิชธนกิจ – ด้านตลาดทุน บริษัทหลักทรัพย์เคทีบี (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า  ราคาเปิดเท่าราคาจอง  มองว่าเป็นกลไกการซื้อขายของตลาด ไม่ได้กังวัลว่าราคาจะเปิดที่เท่าไหร่ เชื่อว่าถ้า SABUY เดินหน้าตามแผนที่วางไว้ให้ดี ในท้ายที่สุดราคาหุ้นจะสะท้อนความเหมาะสม

ด้านราคาหุ้น SABUY เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ (mai) วันแรกที่ 11 พ.ย. 2563 เปิดที่ราคา IPO 2.50 บาท ก่อนขึ้นไปสูงสุด 0.62 บาท และปิดที่ 2.08 บาท -0.42 บาท หรือ 16.80% ด้วยมูลค่าการซื้อขายรวม 678.76 ล้านบาทสำหรับการซื้อขายครึ่งวันเช้า