ANAN กำไร 314 ลบ. โต 23% ยอดขาย Q3 ทะลุเป้า

HoonSmart.com>> “อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์” กวาดยอดขาย 3,816 ล้านบาท ไตรมาส 3/63 ดีกว่าเป้าที่วางไว้ ยอดโอนสูงขึ้น 23% จากไตรมาสก่อนหน้า มั่นใจ 5 โครงการสร้างเสร็จพร้อมโอน เริ่มรับรู้รายได้ไตรมาส 3 แล้ว พร้อมผลักดันยอดโอนต่อเนื่องในไตรมาส 4 ตามเป้า

ดร. ชัยยุทธ ชุณหะชา ประธานเจ้าหน้าที่สายงานการเงิน บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ (ANAN) กล่าวว่า ในไตรมาสที่ 3 บริษัทมีผลการดำเนินงานที่น่าพอใจ เริ่มส่งสัญญาณดีขึ้น โดยรายงานกำไรสุทธิ 314 ล้านบาท เติบโตขึ้น 23% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน โดยส่วนใหญ่มาจากค่าใช้จ่ายในการขายและการบริหารที่ลดลงเป็นจำนวน 329 ล้านบาท หรือลดลง 44% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และอีกส่วนหนึ่งมาจากกำไรจากการขายพื้นที่ภายใต้คอนโดมิเนียมใกล้รถไฟฟ้าสำหรับประกอบธุรกิจร้านค้าปลีกในไตรมาสที่ 3/2563 นี้ บริษัทมี Core EBITDA ในไตรมาสที่ 3 เป็นจำนวน 297 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18% จากไตรมาสก่อนหน้า เนื่องจากผลการดำเนินงานของธุรกิจหลักที่ดีขึ้นจากการปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงาน

นอกจากนี้ อนันดาฯ สามารถทำยอดขายได้ 3,816 ล้านบาท ซึ่งดีกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 3,696 ล้านบาท โดยยอดขายรวม 9 เดือนแรกของปีนี้ มีจำนวนกว่า 13,100 ล้านบาท คิดเป็น 78% ของเป้าหมายยอดขายทั้งปีแล้ว ส่วนใหญ่มาจากการที่บริษัทมุ่งเน้นการขายโครงการพร้อมอยู่ทั้งโครงการคอนโดมิเนียมและโครงการแนวราบ ด้านยอดโอนมีจำนวน 4,652 ล้านบาท เติบโตขึ้น 23% จากไตรมาสก่อนหน้า ขณะที่ยอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) ณ สิ้นไตรมาสที่ 3 มีจำนวนกว่า 25,000 ล้านบาท รองรับการโอนในระยะ 3 ปีข้างหน้า และบริษัทมียอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) รองรับการโอนในช่วงที่เหลือของปีนี้แล้วกว่า 7,300 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 91% ของเป้าหมายยอดโอน

นอกจากนี้ ในไตรมาสที่ 3 บริษัทได้เริ่มรับรู้รายได้จากโครงการคอนโดมิเนียมสร้างเสร็จใหม่พร้อมโอน 5 โครงการ ได้แก่ โครงการเอลลิโอ สาทร-วุฒากาศ ซึ่งได้เริ่มโอนไปแล้วในช่วงปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา และอีก 4 โครงการ คือ โครงการแอชตัน อโศก-พระราม 9 โครงการไอดีโอ คิว สุขุมวิท 36 โครงการไอดีโอ โมบิ สุขุมวิท อีสต์พอยท์ โครงการ ไอดีโอ รัชดา-สุทธิสาร ได้เริ่มโอนในช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมาเช่นกัน ซึ่งทั้ง 5 โครงการจะสามารถรับรู้เป็นรายได้ต่อเนื่องในไตรมาสที่ 4 ซึ่งจะช่วยผลักดันยอดโอนให้บรรลุเป้าหมายที่วางไว้ในปีนี้

บริษัทฯ มีเป้าหมายในการลดสัดส่วนธุรกิจที่ไม่ใช่ธุรกิจหลัก (Non-core business) และเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพธุรกิจหลักของบริษัทฯ ตลอดจนลดค่าใช้จ่ายในการบริหาร เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และความสามารถในการทำกำไรของบริษัทฯ พร้อมรักษากระแสเงินสดให้มีความแข็งแกร่ง โดยสิ้นสุดไตรมาสยังคงรักษาเงินสดรวมโครงการร่วมทุนกว่า 10,000 ล้านบาท ทั้งยังได้รับการสนับสนุนที่แข็งแกร่งและต่อเนื่องจากสถาบันการเงินชั้นนำ และมีทางเลือกในการจัดหาแหล่งเงินทุนที่หลากหลายที่สามารถเลือกใช้ได้สอดคล้องกับสถานการณ์ และถึงแม้ว่าบริษัทจะมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องแต่ก็ยังคงรักษาวินัยทางการเงินไว้อย่างเข้มงวด โดยสามารถรักษาอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยสุทธิต่อทุนไว้ภายใต้เป้าหมายระยะยาวที่ 1:1