บลจ.ยูโอบีออกกองทุน “หุ้นยั่งยืน” กระจายลงทุนทั่วโลก เปิดขาย 10-16 พ.ย.นี้

HoonSmart.com>> บลจ.ยูโอบี (ประเทศไทย) ตอกย้ำผู้นำสร้างความยั่งยืนของกลุ่มธุรกิจจัดการกองทุน เปิดตัวกองทุนเปิด ยูไนเต็ด ซัสเทนเนเบิล อิควิตี้ โซลูชั่น ฟันด์ (USUS) เน้นลงทุนหุ้นยั่งยืนที่มีคุณภาพทั่วโลก คัดสรรหุ้นจากเกณฑ์ ESG อย่างเข้มงวด เพื่อโอกาสรับผลตอบแทนเชิงบวกในระยะยาว เปิดขายครั้งแรก 10-16 พ.ย.นี้

รัชดา ตั้งหะรัฐ

น.ส.รัชดา ตั้งหะรัฐ กรรมการผู้จัดการ สายพัฒนาธุรกิจ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ยูโอบี (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า บริษัทได้เปิดตัวกองทุนเปิด ยูไนเต็ด ซัสเทนเนเบิล อิควิตี้ โซลูชั่น ฟันด์ (USUS) เน้นลงทุนในหุ้นยั่งยืนที่มีคุณภาพทั่วโลก เป็นกองทุนประเภท feeder fund ที่ลงทุนผ่าน Allianz Global Investors Fund – Allianz Global Sustainability Share Class PT (USD) (กองทุนหลัก) บริหารกองทุนโดย Allianz Global Investors ผู้นำระดับโลกในด้านการบริหารการลงทุนอย่างยั่งยืน เป็นบริษัทจัดการที่เป็นหนึ่งใน 50 องค์กรแรกๆ ที่ลงนามร่วมกับ UNPRI ตั้งแต่ปี 2550 และเป็นบริษัทจัดการที่ได้รับการจัดอันดับด้วยคะแนน A หรือ A+ ในการลงทุนทุกประเภทจากเกณฑ์ของ PRI (Principles for Responsible Investment)

กองทุนมีการบริหารแบบใช้หลักเกณฑ์การลงทุนแบบยั่งยืนและมีความรับผิดชอบอย่างเข้มงวด โดยกลยุทธ์หลักในการบริหารงานลงทุนคือการผสมผสานการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานของบริษัทกับการวิจัยปัจจัยทางด้านสิ่งแวดล้อม สังคมและธรรมาภิบาล (ESG) ในการคัดเลือกบริษัทที่ลงทุน โดยเน้นบริษัทที่มีคุณภาพและมีศักยภาพการเติบโตในระยะยาวสูง ซึ่งมีการคัดกรองอย่างเข้มข้นในกระบวนการลงทุน พร้อมการคำนึงถึงการประเมินมูลค่าหุ้นที่เหมาะสม (valuation) รวมทั้งพิจารณาบริษัทที่มีการยึดมั่นในการปรับปรุงการดำเนินธุรกิจตามแนวทาง ESG ที่ดี โดยบริษัทที่จะผ่านเกณฑ์นั้นจะต้องมีคุณสมบัติที่ผ่านเกณฑ์การคัดกรองตามหลักการการลงทุนอย่างมีความรับผิดชอบ หรือ Sustainable and Responsible Investment Strategy (SRI Strategy)

“บลจ. ยูโอบี เล็งเห็นความสำคัญของการลงทุนในบริษัทที่มีคุณภาพสูง มีการดำเนินธุรกิจตามหลักเกณฑ์ ESG ที่ดี ผ่านการเลือกสรรตามมาตรฐานการลงทุนอย่างรับผิดชอบ ประกอบกับบริหารจัดการโดยทีมผู้เชี่ยวชาญระดับโลกในด้านการลงทุนแบบยั่งยืนมาอย่างยาวนาน ซึ่ง Allianz Global Investors เป็นบริษัทจัดการลงทุนที่มีกระบวนการลงทุนที่แข็งแกร่ง ด้วยการประสานการคัดเลือกหุ้นคุณภาพโดยใช้ปัจจัยทางด้าน ESG เข้าไปเสริมในกระบวนการลงทุน และเน้นลงทุนอย่างเฉพาะเจาะจงในบริษัทที่สร้างผลกระทบด้านบวกต่อสังคม จากจุดเด่นที่กล่าวมานี้ บลจ. ยูโอบี เชื่อมั่นว่ากองทุน USUS จะสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดี ซึ่งที่ผ่านมาได้สะท้อนในผลการดำเนินงานย้อนหลังของกองทุน โดยกองทุน Allianz Global Sustainability-A USD1 สร้างผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 ปี ที่ 27.9% ซึ่งชนะเกณฑ์มาตรฐาน Dow Jones Sustainable World NR USD อยู่ที่ 5.8% อีกทั้งยังชนะดัชนี MSCI World NR USD อยู่ที่ 5.1% อีกด้วย (ที่มา : Morningstar Direct ณ 30 ก.ย. 2563)”น.ส.รัชดา กล่าว

บลจ. ยูโอบี (ประเทศไทย) มองทิศทางการลงทุนในแบบยั่งยืน (Sustainable Investing) จะกลายเป็นกระแสที่ทุกองค์กรให้ความสำคัญและยึดเป็นแนวทางหลักในการดำเนินธุรกิจในอนาคตอันใกล้นี้ พร้อมกับที่นักลงทุนเริ่มให้ความสนใจต่อการลงทุนแบบยั่งยืนมากขึ้นเรื่อยๆ ประกอบกับหน่วยงานภาครัฐและสถาบันการเงินหลายแห่งในประเทศไทยที่ยังช่วยส่งเสริมแนวคิดนี้ ทั้งในระดับผู้ประกอบการเพื่อการดำเนินธุรกิจสู่ความยั่งยืน และระดับนักลงทุนเพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจถึงความสำคัญต่อการเลือกลงทุน โดยพิจารณาจากหลักเกณฑ์ของ ESG ในขณะที่สภาวะการลงทุนทั่วโลกยังคงผันผวน จากปัจจัยการระบาดโควิด-19 ที่ยังคงมีอยู่ และวัคซีนยังอยู่ในระหว่างการพัฒนา แต่บลจ.ยูโอบี ยังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อการลงทุนในหุ้นทั่วโลก (Global Equities) ที่ยังคงมีการฟื้นตัวและเติบโตอย่างต่อเนื่อง และมองว่าเป็นโอกาสสำหรับนักลงทุน เลือกลงทุนในบริษัทที่มีการใช้หลักเกณฑ์ ESG ในการดำเนินธุรกิจ ไปพร้อมกับการกระจายการลงทุนในหุ้นคุณภาพทั่วโลกนั้น กองทุน USUS จึงเป็นหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ เพื่อมุ่งตอบโจทย์ของการลงทุนอย่างยั่งยืน และเพิ่มโอกาสในการสร้างผลการดำเนินงานเชิงบวกให้แก่นักลงทุนได้ในระยะยาว

น.ส.รัชดา กล่าวว่า บลจ.ยูโอบี (ประเทศไทย) และกลุ่มธุรกิจจัดการกองทุน ยูโอบี ในฐานะที่เป็นผู้นำระดับภูมิภาคที่มีวิสัยทัศน์หลักในการให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน (Sustainability) และคำนึงถึงการลงทุนอย่างมีความรับผิดชอบนั้น โดยได้ยึดมั่นแนวทางการสร้างความยั่งยืนอย่างจริงจังและต่อเนื่อง ตั้งแต่การเข้าร่วมเป็นผู้ลงนามในหลักการที่ได้รับการสนับสนุนจากองค์การสหประชาชาติเพื่อการลงทุนอย่างรับผิดชอบ (PRI) เมื่อต้นปี 2563 ที่ผ่านมา พร้อมการปฏิบัติตามแนวทางของ PRI เกี่ยวกับการบูรณาการปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อมสังคมและธรรมาภิบาล (ESG) ในกระบวนการลงทุน ซึ่งเราเชื่อว่าการผนวกรวมการพิจารณา ESG เข้ากับกระบวนการลงทุนจะเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาวให้แก่นักลงทุนได้

นอกจากนี้กลุ่มธุรกิจจัดการกองทุน ยูโอบี ยังได้ร่วมมือกับพันธมิตรระดับโลก ผู้เชี่ยวชาญทางด้านการลงทุนเพื่อความยั่งยืนหลายแห่ง ในการใช้ประสบการณ์และกระบวนการลงทุนโดยคำนึงถึงปัจจัยและแนวทาง ESG อย่างเข้มงวด ผ่านกองทุนที่เรานำเสนอให้กับนักลงทุนทั่วโลก สำหรับ บลจ. ยูโอบี (ประเทศไทย) ในฐานะบริษัทย่อยของกลุ่มธุรกิจจัดการกองทุน ยูโอบี ที่ร่วมยึดมั่นตามวิสัยทัศน์อย่างแข็งแกร่ง และเป็นหนึ่งในบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนแรกๆ ในประเทศไทยที่ปฏิบัติตามแนวทางของ PRI เกี่ยวกับการบูรณาการปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อมสังคมและธรรมาภิบาล (ESG) ในกระบวนการลงทุนนั้น

“ล่าสุดนำเสนอการลงทุนในธีม ESG โดยเปิดตัวกองทุนเปิด ยูไนเต็ด ซัสเทนเนเบิล อิควิตี้ โซลูชั่น ฟันด์ (USUS) เพื่อนักลงทุนที่มองหาการนำปัจจัย ESG มาเป็นเกณฑ์คัดกรองหลักในกระบวนการลงทุน พร้อมด้วยกระจายการลงทุนในหุ้นยั่งยืนที่มีคุณภาพทั่วโลก และเป็นกองทุนที่ให้โอกาสสามารถสร้างผลการดำเนินงานอย่างยั่งยืนในระยะยาว”น.ส.รัชดา กล่าว

นางสาวรัชดา กล่าวเสริมว่า บลจ. ยูโอบี มุ่งมั่นคัดสรรผลิตภัณฑ์ทางการลงทุนที่ตอบโจทย์นักลงทุนในเกือบทุกประเภทสินทรัพย์มาโดยตลอด และเชื่อมั่นว่าการนำเสนอกองทุน USUS ซึ่งเป็นกองทุนตราสารทุนในธีมการลงทุน ESG ล่าสุดของเรา จะเป็นกองทุนที่เติมเต็มพอร์ตการลงทุน โดยจะสามารถเพิ่มโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่ดีอย่างยั่งยืนในระยะยาวให้แก่นักลงทุน อีกทั้งการกระจายการลงทุนในบริษัทคุณภาพทั่วโลกนั้น จะช่วยลดความเสี่ยงระดับบริษัทในพอร์ตการลงทุนตราสารทุนโดยรวมได้ ท่ามกลางภาวะตลาดการลงทุนทั่วโลกที่อาจจะมีความผันผวนอยู่บ้าง นักลงทุนจะมีโอกาสได้รับทั้งผลตอบแทนที่ดี พร้อมทั้งส่งเสริมการดำเนินธุรกิจของบริษัทที่ใส่ใจปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม สังคมและธรรมาภิบาลในระยะยาวอีกด้วย