HoonSmart.com>>บล.กสิกรไทยคาดแนวโน้มหุ้นสัปดาห์ถัดไปมีแนวรับ 1,245 และ 1,230 จุด ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 1,275 และ 1,300 จุด แกว่งตาม 4 ปัจจัย ส่วนค่าเงินบาท ธนาคารกสิกรไทยตีกรอบเคลื่อนไหวที่ 30.40-30.80 บาทต่อดอลลาร์ฯ หลังแข็งค่าขึ้นผ่าน 31 บาทต่อดอลลาร์ฯ ตามภูมิภาคและต่างชาติซื้อพันธบัตร 2.58 หมื่นล้านบาท
บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทยมองหุ้นสัปดาห์ถัดไป (9-13 พ.ย.) ดัชนีหุ้นมีแนวรับที่ 1,245 และ 1,230 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,275 และ 1,300 จุดตามลำดับ
ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ประเด็นทางการเมือง และผลประกอบการไตรมาส 3/63 ของบจ. สถานการณ์หลังการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ และการแพร่ระบาดของโควิด-19
ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้บริโภคและดัชนีราคาผู้ผลิตเดือนต.ค.
ขณะที่ข้อมูลเศรษฐกิจต่างประเทศที่สำคัญได้แก่ ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนก.ย. และจีดีพีไตรมาส 3/63 ของยูโรโซน ดัชนีราคาผู้บริโภคและดัชนีราคาผู้ผลิตเดือนต.ค. ของจีน ตลอดจนดัชนีราคาผู้ผลิตเดือนต.ค. ของญี่ปุ่น
หุ้นไทยพุ่งขึ้นตามตลาดหุ้นต่างประเทศ โดยดัชนีปิดที่ระดับ 1,260.08 จุด เพิ่มขึ้น 5.45% จากสัปดาห์ก่อน ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 59,031.08 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20.00% ส่วนดัชนี mai เพิ่มขึ้น 2.26% มาปิดที่ 316.55 จุด
หุ้นทยอยปรับตัวขึ้นตั้งแต่ช่วงต้นสัปดาห์จากสัญญาณการขยายตัวของภาคการผลิตเดือนต.ค. ของสหรัฐฯ ยูโรโซนและจีน ประกอบกับมีแรงหนุนเพิ่มเติมในช่วงกลางสัปดาห์จากผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่สะท้อนโอกาสที่นายโจ ไบเดนจะชนะการเลือกตั้งในครั้งนี้
อย่างไรก็ดี ช่วงบวกของหุุ้นเริ่มจำกัดในช่วงปลายสัปดาห์ เนื่องจากนักลงทุนมีความกังวลต่อสัญญาณวุ่นวายเกี่ยวกับการเลือกตั้งของสหรัฐฯ หลังประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ เตรียมฟ้องร้องให้มีการตรวจสอบการนับคะแนนในหลายรัฐ รวมถึงประเด็นการเมืองในประเทศ
สำหรับค่าเงินบาทสัปดาห์ถัดไป (9-13 พ.ย.) ธนาคารกสิกรไทยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวที่ 30.40-30.80 บาทต่อดอลลาร์ฯ หลังจากเงินบาทแข็งค่าขึ้นผ่านแนว 31.00 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยได้รับแรงหนุนจากการแข็งค่าของเงินหยวนและสกุลเงินอื่นๆ ในภูมิภาคท่ามกลางแรงกดดันเงินดอลลาร์ฯ หลังมีการคาดการณ์ว่า นายโจ ไบเดนอาจชนะการเลือกตั้งในครั้งนี้
นอกจากนี้เงินบาทยังมีแรงหนุนจากแรงซื้อสุทธิพันธบัตรไทยของนักลงทุนต่างชาติเช่นกัน (ตลอดสัปดาห์ซื้อสุทธิ 2.586 หมื่นล้านบาท) ทั้งนี้เงินบาทแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบกว่า 9 เดือนที่ 30.55 บาทต่อดอลลาร์ฯ ขณะที่ตลาดรอติดตามสัญญาณความไม่แน่นอนหลังการเลือกตั้งสหรัฐฯ และปัจจัยทางการเมืองไทย
ในวันศุกร์ (6 พ.ย.) เงินบาทอยู่ที่ระดับ 30.55 เทียบกับระดับ 31.17 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (30 ต.ค.)
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ดัชนีดาวโจนส์ปิดลบ 66.78 จุด หรือ -0.24% อยู่ที่ 28,323.40 จุด จากความไม่แน่นอนของผลการเลือกตั้งและผู้ติดเชื้อโควิดเพิ่มต่อเนื่อง
