“ชญานี-ชยันต์” เตรียมยื่น “อุทธรณ์” คดีฟ้องนักเขียนสุนันท์

 HoonSmart.com>>”ชญานี-ชยันต์” เดินหน้ายื่น อุทธรณ์ คดีฟ้องสุนันท์

จากกรณีศาลอาญากรุงเทพใต้ ได้อ่านที่พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญากรุงเทพใต้ 3 เป็นโจทก์ฟ้องนายสุนันท์ ศรีจันทรา คอลัมนิสต์ “ชุมชนคนหุ้น”  โดยมีนางสาวชญานี โปขันเงิน และนายชยันต์ อัคราทิตย์ เป็นโจทก์ร่วม ในความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยโฆษณาและ พรบ.คอมพิวเตอร์ โดยศาลมีคำพิพากษายกฟ้องโจทก์นั้น

นางสาวชญานี โปขันเงิน ได้แจ้งว่า คดีดังกล่าวยังไม่ถึงที่สุด  ตนเองและนายชยันต์ อัคราทิตย์ อยู่ระหว่างการยื่นอุทธรณ์ เพื่อให้ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยเพิ่มเติมในบางประเด็น และยืนยันว่า ตนเองและนายชยันต์ ไม่เคยรู้จักหรือมีกรณีบาดหมางใด ๆ กับคอลัมนิสต์ดังกล่าว การฟ้องคดีเป็นกรณีที่ตนและนายชยันต์ พิจารณาว่า ได้รับความเสียหายจากข้อความที่เขียนอยู่ในคอลัมน์ ตลอดจนต้องการยกระดับจริยธรรมของการเป็นสื่อเป็นรายกรณี

สำหรับความคืบหน้าคดีที่ศาลปกครองกลาง มีคำพิพากษาเพิกถอนคำสั่งลงโทษทางการปกครองของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต ) ที่ลงโทษน.ส.ชญานี และนายชยันต์ ทางสำนักงาน ก.ล.ต ได้ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุดและอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลปกครองสูงสุด

นอกจากนี้น.ส.ชญานี และนายชยันต์ ได้มีการร้องขอให้สำนักงาน ก.ล.ต ยุติการเผยแพร่ข้อมูลการลงโทษของทั้ง 2 คน ในเว็บไซต์ของสำนักงาน เนื่องจาก เห็นว่า การเผยแพร่ข้อมูลการกระทำผิดของบุคคลตามแนวทางของสำนักงาน ก.ล.ต ที่ดำเนินการอยู่นั้น เป็นการกระทำที่ไม่มีกฏหมายใดรองรับให้สามารถดำเนินการได้  และทางสำนักงาน ก.ล.ต ก็ได้ยุติการเผยแพร่ข้อมูลการลงโทษทางการปกครองของทั้ง 2 คน เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ตลอดจนสำนักงาน ก.ล.ต ได้แจ้งให้น.ส.ชญานี และนายชยันต์ ทราบว่า ก.ล.ต.อยู่ระหว่างการทบทวนทั้งในเรื่องระยะเวลาการเปิดเผยข้อมูล การดำเนินการ การสั่งการและการลงโทษตามกฏหมายของสำนักงาน

” ดิฉันและคุณชยันต์ ต้องขอขอบคุณสำนักงาน ก.ล.ตในกรณีนี้ และถือว่าเป็นก้าวย่างที่น่าชื่นชมในการยกระดับธรรมาภิบาลให้ตลาดทุนไทย ที่หน่วยงานกำกับและตรวจสอบเปิดกว้างในการรับฟังความคิดเห็นของบุคคลทั่วไปมากขึ้น ตลอดจนกล้าที่จะทบทวนการดำเนินการหรือกฏเกณฑ์ต่างๆ แบบไม่ยึดมั่นถือมั่น”

นางสาวชญานี กล่าวว่า ตนเองเป็นเพียงผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ในวงการตลาดทุนไทย ไม่มีความสำคัญใด ๆ เพียงพอ ที่จะมีสื่อรายใดให้ความสนใจเขียนถึงอย่างสม่ำเสมอ และก็ไม่พบว่า การเขียนถึงตนเองนั้น มีส่วนช่วยในการพัฒนาตลาดทุนของประเทศได้อย่างไร  โดยเชื่อว่า การพัฒนาตลาดทุนของประเทศให้เติบโตอย่างยั่งยืน เพื่อใช้เป็นแหล่งในการระดมทุนและลงทุนที่มีประสิทธิภาพของประชาชนนั้น หน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ต้องยอมรับการวิพากษ์วิจารณ์ด้วยเหตุผลและถูกตรวจสอบได้ รวมทั้งต้องสามารถปรับเปลี่ยนตามการเปลี่ยนแปลงของยุคสมัย

ดังนั้น การที่น.ส.ชญานี เป็นหนึ่งในผู้ที่คอยตรวจสอบหน่วยงานต่าง ๆ ดังกล่าว และพบว่าในหลายครั้งการตรวจสอบของตน นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น  จึงขอเดินหน้าตรวจสอบดังกล่าว

สำหรับสื่อที่เขียนถึงน.ส.ชญานี ในเชิงลบมาตลอดนั้น ข้อมูลที่ใช้ ก็มีเพียงแค่ น.ส.ชญานี ได้ใช้สิทธิ์ตามกฏหมายฟ้องคดีบุคคลต่าง ๆ ที่กระทำละเมิดกับตน และมีการย้ายที่ทำงานหลายครั้ง ซึ่งตนเองพิจารณาว่า ทั้งสองกรณีเป็นสิทธิส่วนตนตามกฏหมาย