หุ้นโลกร้อนแรงรับ “ไบเดน” พลังงาน-ไฟฟ้า-การแพทย์เด่น

HoonSmart.com>>ลุ้นชัยชนะ “ไบเดน”ประธานาธิบดีสหรัฐคนใหม่ หนุนหุ้นโลกร้อนแรง ดัชนีหุ้นไทยพุ่ง 3.43% วอลุ่มแน่นกว่า 8 หมื่นล้านบาท หุ้นใหญ่วิ่งยกแผง ไฟฟ้า-พลังงาน -ปิโตรเคมี-การแพทย์ บอร์ดบีโอไอเร่งลงทุน ส่งเสริมลงทุน EV Car ศูนย์สุขภาพ ขยายเวลาขอรับสิทธิยกเว้นภาษีถึง ธ.ค.65

ตลาดหุ้นวันที่ 5 พ.ย. 2563 ตลาดหุ้นโลกปรับตัวขึ้นแรง หนุนดัชนีหุ้นไทยปิดที่ระดับ 1,264.32 จุด +41.88 จุด หรือ +3.43% ด้วยมูลค่าการซื้อขายสูงกว่า 80,914 ล้านบาท

นายปรเมศร์ ทองบัว ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ หัวหน้ากลยุทธ์และกลุ่มอุตสาหกรรมการเงิน บล.บัวหลวง กล่าวว่า ผลของการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐมีหลายสูตร แต่โอกาสที่ โจ ไบเดนชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ และพรรคเดโมแครตได้ที่นั่งจำนวนมาก ส่งผลดีต่อธุรกิจที่จะเติบโตตามภาวะเศรษฐกิจ หุ้นพลังงาน ปิโตรเคมี น่าจะปรับตัวได้ดี

อย่างไรก็ตามนโยบายการขึ้นภาษีเป็น 28% จาก 21% กระทบกำไรบจ. ในระยะสั้นเป็นลบตลาดหุ้นสหรัฐปรับฐาน แต่คาดหวังการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการใช้จ่ายทางคลัง และการเจรจาการค้ากับจีนจะมีพัฒนาการที่ค่อยๆดีขึ้น

“คาดทะลุ 1,300 จุด กรอบความเคลื่อนไหว 1,320-1,350 เน้นหุ้นวัฎจักร สินค้าโภคภัณฑ์ อสังหาริมทรัพย์ ยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์”

บล.ทรีนีตี้คาดหุ้นแกว่งอยู่ในกรอบ 1,170-1,250 ในเชิงกลยุทธ์ยังคงแนะนำถือหุ้นใหญ่ต่อไป แต่ไม่แนะนำให้เพิ่มในจุดปัจจุบัน หากลงทุนระยะสั้น ดัชนีขึ้นไปบริเวณแนวต้านด้านบนที่ 1,240-1,250 มองเป็นจุดขายทำกำไร ทำรอบบางส่วน นโยบายของไบเดน เป็นบวกกลุ่มการแพทย์ ช่วยชาวอเมริกันเข้าถึงการรักษาพยาบาล นโยบายพลังงานสะอาด ดีต่อพลังงานทางเลือก รถ EV

ด้านบล.หยวนต้า (ประเทศไทย ) มองว่า ที่ประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) มีนโยบายเร่งลงทุน ส่งเสริมการลงทุน EV Car ศูนย์สุขภาพ พร้อมขยายขอรับสิทธิยกเว้นภาษีถึงธ.ค.65 ส่งผลดีต่อนิคมอุตสาหกรรม แนะนำหุ้น AMATA-WHA รวมถึงยานยนต์ ได้แก่ AH-SAT-HFT-NYT และกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ DELTA-KCE

นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) เปิดเผยว่า หากนายโจ ไบเดน ชนะการเลือกตั้ง มองว่าจะมีเม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศเข้ามาตลาดเกิดใหม่มากขึ้น และมีโอกาสจะเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทย ซึ่ง 10 เดือนที่ผ่านมาต่างชาติขายสุทธิกว่า 300,000 ล้านบาท มากที่สุดในรอบ 10 ปี

ส่วนแนวโน้มในปี 2564 คาดว่าจะเริ่มทยอยกลับมาฟื้นตัว สมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน (IAA) ได้ทยอยปรับขึ้นประมาณการกำไรบริษัทจดทะเบียนขึ้นประมาณ 40% จากปีนี้ที่ปรับลดลงกว่า 40% เช่นกัน ประเมินดัชนีสิ้นปี 2563 ที่ 1,300-1,350 จุด แนวรับที่ 1,200 จุด มองว่าเป็นแนวรับที่แข็ง และผ่านจุดที่ต่ำสุดไปแล้ว