GPSC กำไร 2.57 พันลบ. Q3/63 โต 188% โรงไฟฟ้าไซยะบุรีหนุน

HoonSmart.com>> “โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่” โชว์กำไรไตรมาส 3/63 จำนวน 2,574 ล้านบาท โตงแรง 188% จากงวดปีก่อน รับรู้ส่วนแบ่งกำไรโรงไฟฟ้าพลังน้ำไซยะบุรีเพิ่มขึ้น 455 ล้านบาท ต้นทุนทางการเงินลดลง หนุน 9 เดือนกำไร 6,050 ล้านบาท

บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ (GPSC) เปิดเผยผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2563 กำไรสุทธิ 2,574.39 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.91 บาท เพิ่มขึ้น 188% จากงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 892.91 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.60 บาท

ส่วนงวด 9 เดือน ปี 2563 กำไรสุทธิ 6,050.25 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 2.15 บาท เพิ่มขึ้น 107% จากงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 2,916.23 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 1.95 บาท

บริษัทฯ มีรายได้จากการดำเนินงานในไตรมาส 3/2563 จำนวน 16,601 ล้านบาท ลดลง 14% จากงวดปีก่อน รายได้อื่นสุทธิ 543 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 252 ล้านบาทจากงวดเดียวกันของปีก่อน สาเหตุหลักมาจากเงินปันผลรับจากบริษัท ราชบุรีเพาเวอร์ จำกัด จำนวน 270 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 165 ล้านบาทจากงวดเดียวกันของปีก่อน

ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารและอื่นๆ ลดลง 733 ล้านบาทจากงวดเดียวกันของปีก่อน สาเหตุหลักมาจากต้นทุนทางการเงินลดลงหลังเพิ่มทุนแล้วเสร็จจำนวน 930 ล้านบาท นอกจากนี้มีส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมและการร่วมค้าจำนวน 638 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 500 ล้านบาทจากงวดเดียวกันของปีก่อน สาเหตุหลักมาจากส่วนแบ่งกำไรจากโรงไฟฟ้าพลังน้ำไซยะบุรีเพิ่มขึ้น 455 ล้านบาท หลังจากได้ดำเนินการเชิงพาณิชน์ในเดือนต.ค.2562

สำหรับกำไรสุทธิ ที่ไม่รวมค่าตัดจำหน่าย (Adjusted Net Income) ซึ่งเป็นกำไรที่ไม่รวมค่าตัดจำหน่าย มูลค่ายุติธรรมของสินทรัพย์สุทธิที่ได้จากการเข้าซื้อกิจการบริษัท โกลว์ พลังงาน (GLOW) ในไตรมาส 3/2563 อยู่ที่ 2,937 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 132% จากงวดปีก่อน เป็นผลจากกำไรขั้นต้นของโรงไฟฟ้าขนาดเล็ก (SPP) เพิ่มขึ้น 269 ล้านบาท โดยมีสาเหตุหลักมาจากผลการดำเนินงานจากการขายไฟฟ้าและไอน้ำให้กับลูกค้าอุตสาหกรรมที่ดีขึ้น อันเนื่องมาจากราคาก๊าซธรรมชาติที่ปรับตัวลดลง ถึงแม้ว่าจะมีการปรับค่าเอฟที ลงในเดือนก.ย.2563 และปริมาณการขายไฟฟ้าให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และปริมาณการขายไฟฟ้าและไอน้ำให้กับลูกค้าอุตสาหกรรมจะลดลงก็ตาม

ขณะที่กำไรขั้นต้นของโรงไฟฟ้าขนาดเล็กมาก (VSPP) และอื่น ๆ เพิ่มขึ้น 81 ล้านบาท โดยมีสาเหตุหลักจากการรับรู้กำไรขั้นต้นของบริษัท โกลบอล รีนิวเอเบิล เพาเวอร์ จำกัด (GRP) ภายหลังการเข้าซื้อกิจการเมื่อวันที่ 26 มี.ค.2563 ส่วนกำไรขั้นต้นของโรงไฟฟ้าผู้ผลิตอิสระ (IPP) ลดลง 442 ล้านบาท สาเหตุหลักจากกำไรขั้นต้นของโรงไฟฟ้าเก็คโค่วันที่ลดลง เนื่องจากรายได้ค่าความพร้อมจ่าย (AP) ลดลง จากการหยุดซ่อมบำรุง 8.5 วัน และราคาถ่านหินที่ปรับตัวลดลง และกำไรขั้นต้นของโรงไฟฟ้าห้วยเหาะที่ลดลง อันเนื่องมาจากปริมาณการผลิตไฟฟ้าที่ลดลงจากสภาวะภัยแล้งในปี 63

ในปี 2563 บริษัทคาดว่าจะสามารถรับรู้มูลค่า Synergy จากการควบรวมกิจการกับ GLOW ได้มากกว่า 500 ล้านบาท โดยในช่วง 9 เดือนแรกปีนี้ รับรู้มูลค่า Synergy จากการดำเนินงานแล้วประมาณ 466 ล้านบาท ซึ่งมาจากการบริหารจัดการระบบผลิตไฟฟ้าและไอน้ำให้มีความยืดหยุ่นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ขณะที่บริษัทประเมินมูลค่า Synergy เบื้องต้นที่จะเกิดขึ้นในช่วง ปี 2562 -2567 จะค่อย ๆ ปรับตัวเพิ่มขึ้นจนสามารถรับรู้มูลค่าที่ประมาณ 1,600 ล้านบาท ในปี 2567