INSET กำไร Q3 เพิ่มแตะ 52 ลบ.รายได้โต 24% มั่นใจผลงานปีนี้เข้าเป้า

HoonSmart.com>> “อินฟราเซท” ไตรมาส 3/63 กวาดรายได้ 530 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24% จากงวดปีก่อน หนุนกำไรสุทธิ 52 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.5% รับรู้งานในมือ คุมต้นทุนค่าใช้จ่ายมีประสิทธิภาพ รักษาอัตรากำไรขั้นต้นในระดับที่ดี ฟาก “ศักดิ์บวร พุกกะณะสุต” เอ็มดี ประเมินโค้งสุดท้ายสัญญาณดี อานิสงส์งานเข้าต่อเนื่อง Data Center-วางระบบ 5G หนุนปีนี้โตเข้าเป้า 10-15%

ศักดิ์บวร พุกกะณะสุต

นายศักดิ์บวร พุกกะณะสุต กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินฟราเซท (INSET) เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานในงวดไตรมาส 3/2563 มีรายได้รวม 530 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24 % จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 428 ล้านบาท ขณะที่มีกำไรสุทธิ อยู่ที่ 52 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.5% จากงวดเดียวกันปีก่อนมีกำไรสุทธิ 50 ล้านบาท

ส่วนผลการดำเนินงานในงวด 9 เดือนของปี 2563 บริษัทมีรายได้รวม 1,060 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5% จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 1,006 ล้านบาท ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 102 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5% จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 97 ล้านบาท

สำหรับปัจจัยที่สนับสนุนให้มีรายได้ และกำไรเพิ่มขึ้น เนื่องจากทยอยรับรู้งานในมือ (Backlog) ของโครงการต่าง ๆอย่างต่อเนื่อง โดยในงวดไตรมาส 3/2563 บริษัทฯ รับรู้รายได้ส่วนใหญ่ จากโครงการงานติดตั้งวงจรกรองสัญญาณย่านความถี่ 850 MHz ตามประกาศ กสทช. และโครงการสร้างศูนย์ Data Center แบบครบวงจร ให้กับบริษัท กรุงไทย คอมพิวเตอร์เซอร์วิสเซส จำกัด (KTBCS) ซึ่งมูลค่ารับรู้ทั้ง 2 โครงการรวม 371.47 ล้านบาท ขณะเดียวกันที่ผ่านมาบริษัทฯมีการควบคุมต้นทุนค่าใช้จ่ายได้เป็นอย่างดี ส่งผลให้ความสามารถอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ในระดับที่ดีต่อเนื่อง

“ภาพรวมผลการดำเนินงานในไตรมาส3/2563 ยังอยู่ในทิศทางที่ดี แม้ว่าจะต้องเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว จากผลกระทบของสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 แต่บริษัทฯ ยังสามารถรักษาการทำกำไรไว้ได้ ”

นายศักดิ์บวร กล่าวอีกว่า ในช่วงโค้งสุดท้ายของปี 2563 บริษัทฯ ประเมินว่าการดำเนินธุรกิจยังอยู่ในทิศทางที่ดี โดยปัจจุบัน บริษัทฯ มี backlog ตุนไว้แล้วกว่า 2 พันล้านบาท ขณะที่งานประเภท Data Center และงานการขยายโครงข่าย 5G ของผู้ประกอบการโทรคมนาคมคาดว่าจะเห็นการลงทุนมากขึ้น จึงทำให้บริษัทฯ ยังคงเป้าหมายรายได้ปีนี้เติบโตระดับ 10-15% จากปีก่อนที่มีรายได้ 1.2 พันล้านบาท

นอกจากนี้ประเมินว่าจากสถานการณ์โควิด-19 ที่ผ่านมา น่าจะเป็นแรงกระตุ้นการขยายการลงทุนด้าน IT จากภาคเอกชนให้เพิ่มขึ้น เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในยุคถัดไป ดังนั้นเมื่อการขยายการลงทุนเพิ่มขึ้น ก็น่าจะเป็นโอกาสที่ดีทำให้มีปริมาณงานในมือสูงขึ้นอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม บริษัทฯยังคงนโยบายที่จะเพิ่มสัดส่วนรายได้ประจำสม่ำเสมอ เพื่อสนับสนุนการเติบโตระยะยาวให้มีความมั่นคง ทั้งนี้ ในปีนี้ บริษัทฯคาดว่าจะมีสัดส่วนรายได้จะมาจากธุรกิจโครงสร้างพื้นฐาน และโครงข่ายโทรคมนาคม ประมาณ 50% ,ธุรกิจก่อสร้างศูนย์ข้อมูลและระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ 40% และธุรกิจงานซ่อมบำรุงและบริการ ซึ่งเป็นรายได้ประจำ (Recurring income) 10%