โดย.. ณัฐชาต เมฆมาสิน, CFA, FRM
ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ทรีนีตี้
– Swing (state) to Trump: สถานการณ์ล่าสุดต้องบอกว่า โอกาสที่ Trump จะได้รับชัยชนะในส่วนของปธน.นั้นเริ่มมีมากขึ้นตามลำดับ เมื่อเทียบกับช่วงเช้าที่ผ่านมา เนื่องจากผลการนับคะแนนในรัฐที่เป็น Swing state ทั้งหลายปรากฏว่าส่วนใหญ่โน้มเอียงไปทาง GOP แทบทั้งสิ้น อาทิ FL (ยืนยันแล้ว), NC, PA, MI, WI จะมีเพียงก็แต่ AZ เท่านั้น ที่เอนเอียงไปทาง DEM อยู่ ไม่นับรวมกับรัฐที่เมื่อเช้ายังคู่คี่สูสีอยู่อย่างเช่น OH ที่ล่าสุดก็เป็นที่ยืนยันแล้วว่า GOP เป็นฝ่ายชนะไป
– Electoral: ด้วยเหตุนี้ ถึงแม้คะแนน Electoral college ที่ยืนยันล่าสุดจะให้ทาง ไบเดน เป็นต่อ ทรัมป์ อยู่ประมาณ 223 vs. 213 แต่หากนำคะแนนของรัฐที่เป็น Swing state ที่ทรัมป์นำอยู่บวกเข้าไป จะได้ว่าคะแนน Electoral ของทรัมป์จะขึ้นจาก 213 เป็น 274 ทันที สูงกว่าคะแนนขั้นต่ำที่ 270 และจะทำให้ทรัมป์ได้ขึ้นเป็นปธน.สมัยที่ 2 โดยทันที
– Senate: ไม่เพียงแต่ผลปธน.ที่อาจพลิกโผเท่านั้น แต่หากดูคะแนนของสว.ที่เลือกตั้งในรอบนี้ล่าสุดที่ยืนยันแล้ว เมื่อนับรวมกับสว.ที่ยังคงอยู่ในวาระ จะเป็นทางด้าน GOP ที่นำหน้า DEM อยู่ 47 ต่อ 44 ที่นั่ง ส่งผลให้ GOP ต้องการอีกเพียง 3 ที่นั่งเท่านั้นก็จะมีเสียงในสภาสูงกึ่งหนึ่งทันที ซึ่งหากดูจากการนับคะแนนล่าสุด ดูเหมือนว่า GOP มีโอกาสได้เกินกว่า 3 ที่นั่งด้วยเช่นกัน หากเป็นเช่นนั้น GOP ก็จะครองเสียงข้างมากในสภาสูงทันที
– House: เป็นที่น่ายืนยันได้แล้วว่า DEM จะได้ครองเสียงข้างมากในสภาล่างต่อไป ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่ Surprise ตลาดแต่อย่างใด
– From best to bad: กล่าวโดยสรุป จากสถานการณ์ที่ค่อนข้างจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วนี้ และอาจทำให้กรณี Blue wave ที่เรามองไว้มีความเป็นไปได้ลดลง และในทางกลับกัน กรณี Trump + R + D มีความเป็นไปได้สูงขึ้น อาจทำให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯมีโอกาสกลับมาปรับตัว Outperform ตลาดหุ้น EM ได้ ซึ่งจะกลายมาเป็นตลาดที่เรามีมุมมองเชิงระมัดระวังมากขึ้น
นอกจากนั้นหากผลสุดท้ายออกมาเป็นกรณี Trump + R + D จริง คาดว่าความกังวลของนักลงทุนในตลาดพันธบัตรสหรัฐฯต่อ UST yield ที่ปรับขึ้นจะลดลงทันที จากโอกาสในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนานใหญ่ของสหรัฐฯที่ลดลง ซึ่งอาจทำให้ Hedge fund ที่สะสม Short position ในตลาดพันธบัตรสหรัฐฯก่อนหน้านี้มีการ Recover short กลับได้อย่างสำคัญ ดังนั้น จะทำให้แรงกดดันที่มีต่อสินทรัพย์หรือหุ้นในกลุ่ม High yield ลดลงโดยทันที
กลุ่มที่น่ามอง: กลุ่มโรงไฟฟ้า
